อยากจะตัดเกรด ต้องจัดคะแนนเรียงจากน้อยไปมากหรือเรียงจากมากไปน้อย

 


IF ซ้อน IF กับ VLookup เป็นสูตรที่ใช้ในการตัดเกรด ขอยกตัวอย่างง่ายๆว่า

 
ถ้าสอบได้ตั้งแต่ 90 คะแนนขึ้นไป ได้เกรด A
ถ้าสอบได้ตั้งแต่ 70 คะแนนขึ้นไป ได้เกรด B
ถ้าสอบได้ตั้งแต่ 0 คะแนนขึ้นไป ได้เกรด C

👉
เมื่อใช้ IF ซ้อน IF ต้องเรียงจากมากไปน้อย

 
=IF(E3>=B5, C5, IF(E3>=B4, C4, C3))

แกะสูตรออกมาได้ตามนี้
=IF(คะแนนที่สอบได้>=90, "A", IF(คะแนนที่สอบได้>=70, "B", "C"))

ทำไมต้องเรียงโดยเอา 90 คะแนนมาเป็นเงื่อนไขแรก ทำไมไม่เอา 70 หรือ 0 ขึ้นก่อน

☝️ ในการสร้างสูตร IF ซ้อน IF นั้น ต้องจัดเงื่อนไขเปิดให้ IF ทุกตัวได้ทำงาน

ถ้าใช้เงื่อนไขแบบ >= IF ตัวแรกจากซ้าย ต้องเอา 90 มาตรวจสอบก่อน ถ้าคะแนนไม่ถึง IF ตัวถัดไปจึงค่อยตรวจสอบ 70 คะแนนเป็นลำดับถัดไป แต่ถ้าเอา >=0 ขึ้นก่อนมาเป็น IF ตัวแรก จะหมดโอกาสที่ IF ตัวถัดไปจะทำงาน

แล้วทำไมตารางด้านซ้าย ต้องเรียงคะแนนจากน้อยไปมากล่ะ ทำไมจึงเรียง 0 70 90 ได้เกรด C B A ตามลำดับ

👉 เผื่อไว้ใช้สูตร VLookup ได้ด้วยไงครับ
=VLOOKUP(E3, $B$3:$C$5, 2)

สูตร VLookup นี้ทำงานแบบ Approximate Match มีข้อกำหนดไว้ว่า column ซ้ายสุดต้องเรียงจากน้อยไปมาก

🤩 ระหว่าง IF ซ้อน IF กับ VLookup จะใช้สูตรไหนดีกว่ากัน

ถ้ามั่นใจว่าตารางด้านซ้าย $B$3:$C$5 จะอยู่ติดกันแบบนี้ไปตลอดก็ใช้ VLookup เพราะสั้นและง่ายดี แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าตารางจะถูกแยกหรือย้ายค่ากระจายไปที่อื่น ให้ใช้ IF ซ้อน IF เพราะยืดหยุ่นกว่า

ส่วนเรื่องความเร็วว่าสูตรไหนเร็วช้ากว่ากัน อย่าไปสนใจมากนักเลยครับ พยายามเลือกสูตรที่จะทำงานไปได้ตลอดโดยเราไม่ต้องไปแก้ไขปรับสูตรอีกเลย

Download ตัวอย่างได้จาก
https://drive.google.com/file/d/14K8_1aOApbcMbcJ3X19WEinJH2_UE8F2/view?usp=sharing

 

 

ถามต่ออีกนิด คุณว่าในตำราจะเจอสูตรไหนก่อนกัน

สูตร IF จะอยู่ในบทต้นๆใช่ไหม ส่วน VLookup จะอยู่บทท้ายๆ

ถ้าอยากเก่ง Excel แนะนำให้หาหนังสือมาเปิดอ่านโดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ พลิกอ่านให้ผ่านหูผ่านตาไว้ก่อนว่า Excel มีอะไรไว้ให้ใช้บ้าง พอได้รับมอบหมายงานมาแล้วจะได้มองออกว่ามีวิธีไหนบ้าง จากนั้นจึงค่อยเปิดตำราลองทำตาม

ให้ยึดหลักรอบรู้ต้องมาก่อนรู้ลึก

 



ความคิดเห็น