Game changing ที่ Copilot จัดมาให้
เดือนและปีที่สูตรแต่ละตัวเปิดตัวใน Excel 365/2021 เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า “สูตรใหม่มาเมื่อไหร่ และมาเพื่ออะไร”
---
📌 สูตรใหม่ใน Excel ที่ใช้แทน Power Query ได้บางส่วน พร้อมเดือนปีเปิดตัว
หลายคนถามว่า “ในเมื่อ Excel มีสูตรใหม่อย่าง VSTACK, FILTER แล้ว ยังต้องใช้ Power Query อยู่ไหม?”
คำตอบคือ: สูตรใหม่ช่วยจัดข้อมูลใน worksheet ได้ดีมาก แต่ Power Query ยังจำเป็นสำหรับงานที่ต้องดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง หรือแปลงข้อมูลแบบลึก
ลองดูไทม์ไลน์ของสูตรที่เปลี่ยนเกม:
🔹 FILTER / SORT / SORTBY / UNIQUE
📅 เปิดตัว: กันยายน 2018
→ เป็นชุด Dynamic Array รุ่นแรก ใช้กรอง เรียง และล้างข้อมูลซ้ำแบบยืดหยุ่น
🔹 LET / LAMBDA
📅 LET: พฤศจิกายน 2020
📅 LAMBDA: ธันวาคม 2020
→ สร้างสูตรซับซ้อนแบบ reusable และตั้งชื่อสูตรเองได้
🔹 TOCOL / TOROW / VSTACK / HSTACK / WRAPCOLS / WRAPROWS
📅 เปิดตัว: พฤศจิกายน 2022
→ ใช้รวมข้อมูลหลายช่วงแนวตั้ง/แนวนอน และแปลงข้อมูลเป็นรูปแบบใหม่
🔹 TEXTSPLIT / TEXTBEFORE / TEXTAFTER
📅 เปิดตัว: พฤศจิกายน 2022
→ ใช้แยกข้อความแบบละเอียด เหมาะกับงานจัดการข้อมูลที่เคยต้องใช้ Power Query
🔹 SCAN / REDUCE / MAP / BYROW / BYCOL / MAKEARRAY
📅 เปิดตัว: พฤศจิกายน 2022
→ ฟังก์ชันระดับสูงสำหรับการประมวลผลแบบสะสมและการจัดการข้อมูลเชิงโครงสร้าง
---
🧠
- ใช้ Power Query รวมข้อมูลจากหลายฝ่าย → ส่งเข้า named range
- ใช้สูตรใหม่จัดเรียงและแสดงผลแบบ dynamic โดยไม่ต้องพึ่ง Slicer
- สร้างระบบที่ “ฉลาด” และ “เบา” กว่า Power Query โดยใช้ LET + LAMBDA + VSTACK
---
> “Power Query คือรถบรรทุกที่ขนข้อมูลจากหลายที่
> สูตรใหม่ใน Excel คือรถเข็นที่จัดเรียงข้อมูลในร้านให้สวยงาม”
สูตร
TAKE เปิดตัวครั้งแรกใน Excel 365 เดือนพฤศจิกายน ปี 2022
โดยเป็นส่วนหนึ่งของชุดฟังก์ชันใหม่ที่มาพร้อมกับ Dynamic Arrays รุ่นขยาย
เช่น:
- VSTACK, HSTACK – รวมข้อมูลแนวตั้ง/แนวนอน
-
TOCOL, TOROW – แปลงข้อมูลเป็นแนวเดียว
- WRAPROWS, WRAPCOLS – จัดข้อมูลเป็นกลุ่ม
- DROP, TAKE – ตัดหรือดึงข้อมูลจากหัวหรือท้ายช่วง

TAKE ใช้ทำอะไร?
- ดึงข้อมูลจาก “บนสุด” หรือ “ล่างสุด” ของช่วงแบบ dynamic
- ใช้ค่าลบเพื่อดึงจากท้าย เช่น =TAKE(A2:A100, -5) → ดึง 5 รายการสุดท้าย
- ใช้คู่กับ SORTBY, FILTER, LET เพื่อสร้าง dashboard ที่ตอบสนองทันที
> “TAKE คือกรรไกรที่ตัดข้อมูลจากหัวหรือท้ายได้ทันที
> ไม่ต้องเขียนสูตรซับซ้อนหรือใช้ INDEX + SEQUENCE เหมือนสมัยก่อน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในช่วง
12 ปีที่ผ่านมา (2013–2025) Power Query ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก Add-in
ธรรมดา สู่เครื่องมือ ETL ระดับองค์กรที่เชื่อมโยงกับ Excel, Power BI,
Microsoft Fabric และ AI Copilot โดยมีการปรับปรุงทั้งด้านความสามารถ
การเชื่อมต่อ และการทำงานอัตโนมัติ.

สรุปวิวัฒนาการ Power Query ปี 2013–2025

2013 – เปิดตัวใน Excel 2010/2013 (ชื่อเดิม: Data Explorer)
- เป็น Add-in สำหรับดึงและแปลงข้อมูลจากหลายแหล่ง
- ใช้ M language สำหรับการเขียน query

2016–2019 – รวมเข้า Excel และ Power BI อย่างเป็นทางการ
- กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Excel Ribbon (Data → Get & Transform)
- เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับ SharePoint, SQL, Web, Folder

2020–2022 – ปรับปรุง UI และเพิ่มฟีเจอร์อัตโนมัติ
- เพิ่มตัวเลือก Combine Files, Detect Data Type, Group by
- รองรับการ refresh อัตโนมัติและ query dependencies

2023–2024 – เชื่อมโยงกับ Microsoft Fabric และ AI
- Power Query กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Fabric Dataflows
- เพิ่มการเชื่อมต่อกับ OneLake, Dataverse, และ cloud sources

2025 – รองรับแหล่งข้อมูลแบบ Authenticated และ AI Copilot
- เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่ต้องการการยืนยันตัวตน เช่น BigQuery, Databricks, PostgreSQL
- ใช้ Copilot ช่วยเขียน query, สรุปข้อมูล, และแนะนำการแปลงข้อมูลแบบอัตโนมัติ
- รองรับการสร้าง narrative visual และการสื่อสารข้อมูลผ่าน Teams

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ควรรู้
- จาก manual → สู่ automation: Power Query จำขั้นตอนการแปลงข้อมูลได้หมด
- จาก local → สู่ cloud: รองรับการทำงานร่วมกับ Power BI, Fabric, และ OneLake
- จาก low-code → สู่ no-code + AI: Copilot ช่วยเขียน query และแนะนำการแปลงข้อมูล
- จาก Excel-only → สู่ระบบข้อมูลระดับองค์กร: ใช้ร่วมกับ SQL Server, Databricks, และ Power Platform
> “Power Query คือพนักงานจัดข้อมูลที่เรียนรู้ทุกปี—จากคนทำงานมือถึงคนใช้ AI ช่วยคิดแทน

No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.