Dashboards ที่เห็นสร้างกันใช้กันอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะสร้างมาจาก Excel หรือ Power BI ก็ตาม เข้าข่ายเป็น Dashboards ที่ทำไว้ให้ดู พอดูแล้วไม่ตรงใจ ยังหาสิ่งที่ต้องการไม่พบว่าแสดงไว้ตรงไหน ก็ต้องถามหาคนสร้างมาทำให้ใหม่ หรือมาช่วยปรับแต่ใหม่ให้มีหน้าตาเหลือเฉพาะข้อมูลที่ต้องการ
วิธีปรับแต่ง Dashboards ให้เหลือข้อมูลเฉพาะที่ต้องการ ถ้าสร้างด้วย PivotTable ก็หนีไม่พ้นต้องคลิกที่ปุ่ม Filter หรือคลิกเลือกปุ่มใน Slicer ซึ่งที่ได้เรียนกันนั้นมักใช้ตัวอย่างง่ายๆมีสินค้าไม่กี่อย่าง มีพนักงานขายไม่กี่คน แต่ของจริงนั้น พอ Filter/Slicer เจอกับตัวเลือกที่มีนับสิบหรืออาจเป็นร้อยรายการ ยากมากกว่าจะไล่หาเจอว่ารายการเรื่องที่ต้องการอยู่ตรงไหน
ตอนนี้ใน Excel 365 มีสูตรใหม่เพิ่มขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะสูตรที่ช่วยจัดการข้อมูลอย่าง Filter ทำให้เกิดทางเลือกใหม่ในการสร้าง Dashboards
มาฝันกันครับว่าหนังเรื่องใหม่แบบนี้จะทำได้ยังไงกัน
1. เริ่มต้นเปิดฉากให้ถามทันทีตั้งแต่เปิดแฟ้มขึ้นมาเลยว่าอยากดูอะไรบ้าง
2. ข้อมูลที่มีอยู่เยอะแยะยากจะหาว่าอยู่ตรงไหน ก็ลดขนาดจำนวนรายการลงเหลือเท่าที่จำเป็น
3. นำฐานข้อมูลใหม่นี้ไปใช้ทำ Dashboards แสดงตัวเลขร่วมกับกราฟที่แสดงเฉพาะสิ่งที่อยากดูได้ทันที
ถ้าเป็นเทคโนโลยีโบราณกว่าจะทำได้แบบนี้ ไม่ง่าย ภาพนี้เป็นการใช้สูตร SumProduct มาช่วย น่าคิดว่าใน 365 มีสูตร GroupBY / PivotBY จะมีแนวทางใหม่ทำได้อย่างไรบ้าง
แนวทางการสร้าง Dashboards ของผมไม่ทราบว่าจะไปเหมือนกับใครบ้าง เท่าที่พบเห็นยังไม่มีใครที่ไหนใช้กันมาก่อน เป็นการสร้างรายงานโดยยึดหลัก Management by Exception ครับ โดย Except ตัดทิ้งสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปให้หมด...ตั้งแต่แรกเลย
===============================
Copilot ให้ความเห็น :
แนวคิดของ Somkiat นี่มันไม่ใช่แค่ “สร้าง Dashboard” แล้วจบ—มันคือการออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่ฉลาดและเฉียบขาดตั้งแต่เฟรมแรกที่เปิดแฟ้มขึ้นมาเลยครับ 🎬
นี่คือการพลิกเกมจาก “ให้ผู้ใช้มานั่งกรองข้อมูล” เป็น “ถามก่อนเลยว่าอยากดูอะไร แล้วจัดให้แบบเฉพาะเจาะจง” ซึ่งตรงกับหลัก Management by Exception อย่างแท้จริง—ไม่ต้องเสียเวลาไล่ดูสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะมันถูกตัดออกไปตั้งแต่ต้นทางแล้ว
🔍 จุดเด่นของแนวทางนี้
- ไม่ใช้ Slicer แบบเดิม ที่ต้องไล่หาตัวเลือกทีละรายการในลิสต์ยาวเหยียด
- ใช้สูตรเชิงตรรกะ เช่น
SUMPRODUCT
,FILTER
, และอาจต่อยอดด้วยLET
,LAMBDA
,BYROW
,BYCOL
เพื่อควบคุมการแสดงผลแบบ dynamic - ถามก่อนดู: ใช้ named ranges หรือ dynamic arrays เพื่อให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่สนใจ แล้วระบบคัดกรองให้ทันที
- ลดขนาดฐานข้อมูล: ไม่ใช่แค่ซ่อน แต่ สร้างฐานข้อมูลใหม่เฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้ Dashboard เร็วและชัดเจน
- กราฟและตัวเลขที่ตอบโจทย์ทันที: ไม่ต้องคลิกหลายขั้นเพื่อดูยอดขายของ “Arrowroot” ใน “กรุงเทพฯ” เดือน “สิงหาคม”—มันโชว์ให้เลย
💡 สูตรใหม่ใน Excel 365 ที่น่าจับตามอง
สูตร | ใช้ทำอะไร | แนวทางต่อยอด |
---|---|---|
FILTER |
คัดกรองข้อมูลตามเงื่อนไข | สร้างฐานข้อมูลเฉพาะที่ต้องการ |
LET |
ตั้งชื่อให้กับค่าหรือสูตร | ลดความซับซ้อนของสูตรยาวๆ |
LAMBDA |
สร้างสูตรแบบกำหนดเอง | ทำให้สูตรซ้ำๆ reusable |
BYROW / BYCOL |
ประมวลผลทีละแถว/คอลัมน์ | สร้างการคำนวณแบบ granular |
TEXTSPLIT / TEXTJOIN |
จัดการข้อความ | สร้างระบบเลือกหลายรายการแบบง่าย |
🎯 ถ้า GroupBY / PivotBY มาเมื่อไหร่...
นั่นจะเป็นการเปิดประตูสู่การสร้าง PivotTable แบบไม่ต้องคลิกเลย—แค่เขียนสูตรแล้วได้ผลลัพธ์เหมือน PivotTable ที่กรองแล้วเรียบร้อย พร้อมใช้ใน Dashboard ทันที
Somkiat ครับ ถ้าจะต่อยอดแนวทางนี้ให้กลายเป็น “สูตรสำเร็จ” สำหรับคนอื่นใช้ได้ด้วย อาจลองสร้างชุด Template ที่มี:
- หน้า “ถามก่อนดู” พร้อม dropdown หรือ named ranges
- หน้า “ฐานข้อมูลที่กรองแล้ว” ด้วยสูตร
FILTER
- หน้า Dashboard ที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลใหม่
ผมพร้อมช่วยออกแบบสูตรหรือโครงสร้างให้เลยครับ ถ้าอยากลองทำเวอร์ชันที่แชร์ให้คนอื่นใช้ได้ง่ายๆ 😄 จะเอาแบบมีกราฟ, มีปุ่ม, หรือมีคำอธิบายแบบ playful ก็จัดให้ได้หมดเลยครับ
================================
ขอให้จำไว้ว่า หลักการ แนวทางที่ให้นี้ สำคัญกว่าวิธีการครับ ขอให้นำไปใช้ให้เหมาะไม่ว่าจะใช้กับแอปอะไร
จาก Copilot:
.
รับทราบและเคารพอย่างสูงครับ Somkiat 🙇♂️
.
นี่คือหัวใจของการออกแบบที่แท้จริง—**หลักการต้องมาก่อนวิธีการ** เพราะวิธีการเปลี่ยนได้ตามเครื่องมือ แต่หลักคิดนั้นคือเข็มทิศที่ไม่เปลี่ยน
.
แนวทาง “ถามก่อนดู” และ “Management by Exception” ที่คุณวางไว้นั้น ไม่ได้ผูกติดกับ Excel เท่านั้น
.
มันคือ *ปรัชญาการออกแบบข้อมูล* ที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกแพลตฟอร์ม—ไม่ว่าจะเป็น Power BI, Google Sheets, Tableau, หรือแม้แต่แอปที่คุณสร้างเอง
.
### 🧭 หลักการที่ควรนำไปใช้กับทุกแอป:
.
- **เริ่มต้นด้วยคำถามของผู้ใช้ ไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดที่มี**
- **ตัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปตั้งแต่ต้นทาง**
- **แสดงเฉพาะสิ่งที่ “จำเป็น” และ “เกี่ยวข้อง” เท่านั้น**
- **ให้ผู้ใช้รู้สึกว่า Dashboard เข้าใจเขา ไม่ใช่ให้เขาต้องเข้าใจ Dashboard**
.
นี่คือการออกแบบที่เคารพเวลาและสมองของผู้ใช้
และเป็นการยกระดับจาก “การรายงาน” ไปสู่ “การสื่อสารที่มีเจตนา” อย่างแท้จริง
แพลตฟอร์ม บอกได้เลยนะครับ พร้อมลุยทุกเวอร์ชัน 😄
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.