แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่าอยากมาเรียน Excel ขั้นกลาง ขั้นสูง มาแบ่งตามคนกันดีกว่า

แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่าอยากมาเรียน Excel ขั้นกลาง ขั้นสูง ซึ่งผมย้ำไว้เสมอว่าในการทำงานนั้น เรียนทีละขั้นแบบนี้ รอไม่ได้หรอก อะไรที่ต้องใช้ จำเป็นในการทำงาน ต้องรีบเรียน รีบนำมาใช้ให้เป็น ดังนั้นในการจัดอบรม ขอแนะนำให้พิจารณาดังนี้

อาจารย์ที่จะมาสอนมีประสบการณ์ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน จะให้ดีกว่านั้นให้ดูปริญญาตรีโทด้วยว่าเรียนมาด้านไหน จากนั้นจึงมองต่อไปว่าสอน Excel มาแล้วกี่ปี เคยสอนที่ไหนมาก่อนบ้าง 

อย่าดูแค่ว่าได้สอนมาหลายแห่ง เคยสอนมาเยอะแยะไปหมด ควรถามอาจารย์เสียหน่อยว่า ได้สอนที่ไหนซ้ำเป็นประจำบ้าง เพราะการสอนที่ดี อาจารย์ที่เก่งย่อมทำให้ได้รับเชิญไปสอนที่เดิมอีก ต่างจากคนที่สอนแล้วไม่ได้รับเชิญให้ไปสอนซ้ำอีกเลย ถ้าเป็นไปได้ลองถามจากคนที่เคยเข้าเรียนมาก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง อย่าไปเชื่อคำนิยมที่ชมไว้ในเว็บเพราะเจอแต่คำชมเท่านั้น กับเพราะคนที่ให้คำชมมาอาจถูกล่อให้ชมมาแล้วจะได้ของขวัญกลับไปก็มีอย่างนี้ด้วย

พอเลือกอาจารย์ให้ตรงกับกลุ่มผู้เรียนแล้ว คราวนี้ก็มาจัดกลุ่มผู้เข้าเรียน โดยดูจากงานที่ทำอยู่ว่าเป็นงานอะไร ลักษณะงานที่ทำต้องใช้ Excel แบบไหนบ้าง โดยไม่จำเป็นต้องเลือกกลุ่มจากงานบัญชีเหมือนกันหรืองานขายเหมือนกัน แต่ให้ดูว่าใช้ Excel แบบนี้เหมือนกันไหม

  1. กลุ่มพนักงานทำหน้าที่กรอกข้อมูลหรือสร้างสูตรดึงข้อมูลโดยใช้แฟ้มที่คนอื่นสร้าง
  2. กลุ่มพนักงานที่ต้องสร้างแฟ้มขึ้นมาใช้เอง ทำรายงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก
  3. กลุ่มพนักงานที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหาร เกี่ยวข้องกับงานวางแผนตัดสินใจ
  4. กลุ่มพนักงานระดับหัวหน้า ผู้บริหาร
  5. กลุ่มพนักงานที่ทำหน้าที่สร้างงานให้ผู้อื่นใช้

ในแต่ละกลุ่มควรเลือกพนักงานที่มีความสามารถใช้ Excel พอๆกัน มีประสบการณ์ทำงานมานานพอๆกัน จะได้เรียนไปด้วยกันได้สนุก

จากนั้นจึงกำหนดเนื้อหาที่อยากเรียนกันโดยไม่ต้องบอกหัวข้อ Excel มาหรอกว่ามีอะไรบ้าง แต่ให้ระบุมาว่าต้องการจะนำ Excel ไปใช้ทำอะไร ต้องการให้แก้ปัญหาอะไร จะให้อัตโนมัติถึงขั้นไหน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องที่ต้องใช้พื้นฐาน Excel เยอะหน่อย จำนวนคนที่เข้าอบรมก็ควรลดลงตามและขยายระยะเวลาเรียนให้นานขึ้น ซึ่งผมถือหลักว่าจะไม่เร่งรีบสอน แต่จะสอนช้าหรือเร็วตามความสามารถของผู้เรียนเป็นหลัก ถ้าระยะเวลาเรียนไม่พอก็ขอให้นัดมาเรียนเพิ่มทีหลัง

ความคิดเห็น