มาชมให้เห็นกับตาว่า ทำไมสูตร PivoyBY ของ Excel 365 จึงเหนือกว่าการใช้ PivotTable
ในตัวอย่างนี้ แค่คลิกเปลี่ยนปีกับชื่อหัวตารางในเซลล์สีเขียวกับสีส้มด้านบนตาราง สูตร PivotBY จะสร้างรายงานตามรายเดือนให้ทันที เปลี่ยนตัวเลขให้เห็นกันจะจะในตารางเดิมตารางเดียว พร้อมกับนำไปแสดงเป็นกราฟให้เห็นเปรียบเทียบ
สูตรในเซลล์ M4
=PIVOTBY( MONTH(Date), INDIRECT(M2), Sales, SUM,,,,,, YEAR(Date)=K2 )
- MONTH(Date) ใช้สร้างหัวตารางเป็น Row Field ตามเลขเดือน
- INDIRECT(M2) ใช้สร้างหัวตารางเป็น Column Field ตามเรื่องที่ต้องการตามค่าในเซลล์สีส้ม
- Sales คือ Valuse ที่อยากให้หายอดรวมตามสูตร SUM
- YEAR(Date)=K2 เป็นสูตร Filter เพื่อหายอดเฉพาะเลขปีในเซลล์สีเขียว
พอสร้างสูตรนี้แล้ว Enter ลงไปในเซลล์ M4 จะพบว่า Excel กระจายตัวเลขคำตอบเป็นตารางสรุปยอดให้ทันที
🥰 เทียบ PivotBY กับ PivotTable
1. ไม่ต้องเสียเวลาไปสั่ง Refresh
2. ไม่ต้องสร้างหลายตารางหรือตามคนอื่นมาปรับแก้ให้
3. ไม่ต้องเสียเวลาไปสั่ง Filter หรือ Slicer แค่คลิกในเซลล์ที่ใช้ Data Validation แบบ List แทน
เนื่องจากตารางที่ PivotBY หาคำตอบมาให้ตามรายการที่มี จะไม่แสดงยอดครบทุกเดือน ดังนั้นก่อนจะนำไปสร้างเป็นกราฟที่แสดงครบทั้ง 12 เดือน จึงต้องสร้างตารางฐานข้อมูลสำหรับนำไปสร้างกราฟ โดยใช้สูตรในเซลล์ N26
=IFERROR( INDEX( M4#, MATCH( M26:M37, CHOOSECOLS(M4#,1),), N24#), 0 )
- IFERROR(สูตร, 0) เพื่อปรับค่าเดือนที่หาไม่พบให้เป็น 0
- M4# เป็นพื้นที่ตาราง Dynamic Array ที่ได้มาจากสูตร PivotBY
- MATCH( M26:M37, CHOOSECOLS(M4#,1),) หาเลขที่ Row ตามเลขเดือน
- N24# เป็นเลข Column ของหัวตาราง PivotBY ที่ต้องการ
Download ตัวอย่างได้จาก
https://drive.google.com/file/d/1nAicW6mCU8KXYnsBWZpuEwmtDPE662kj/view?usp=sharing
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น