จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยกำลังการผลิตที่มีอยู่ได้หรือไม่?
... คิดแบบ Excel คิดยังไง
ถ้ามีสินค้าคงคลังอยู่ 100 ชิ้น แต่ลูกค้าต้องการสั่งของ 120 ชิ้น ก็แค่เอามาลบกันได้สินค้าที่ขาดอยู่ 20 ชิ้น การคิดแบบที่เราคิดเป็นแบบนี้
.
ส่วนการคิดแบบ Excel ถ้ากรอกค่าแล้วเอามาลบกันก็ยังเป็นวิธีคิดแบบที่คนคิด ต่างจากการคิดแบบ Excel ต้องหาทางออกแบบตารางที่ทำให้ Excel คิดแทนได้
.
ถ้าคิดแบบนักบัญชีที่คุ้นเคยกับฐานข้อมูล อาจออกแบบตารางให้มีวันที่รายการ ชื่อสินค้า ยอดรับ ยอดจ่าย และยอดคงเหลือ แล้วคำนวณไล่ลงไปเรื่อยๆเพื่อหายอดสินค้าคงเหลือ โดยใช้สูตรที่เรียนกันมาว่า สินค้าปลายงวด = ต้นงวด + ซื้อ - ขาย
ถ้าคิดแบบนักวางแผน ยอดสินค้าคงคลังรับรู้มาจากฝ่ายบัญชีเมื่อวันก่อนหน้า และระหว่างช่วงเวลานั้นยังมีการเพิ่มลดจากการสั่งซื้อและการนำไปขายให้ลูกค้ารายอื่นอีก ทำให้สินค้าคงคลังเปลี่ยนไป จะคิดแบบไหนดี สร้างสูตรเดียวเพื่อหาคำตอบไหวไหมเนี่ย
ถ้าจะใช้ Excel ให้คิดแบบ Excel ต้องออกแบบตารางมาช่วยคิด ให้มีหัวตารางเป็นเดือนหรือวัน เพื่อกรอกความต้องการสินค้าลงไปในวันนั้นที่ลูกค้าต้องการ ใส่ยอดคงเหลือลงไปในวันนี้ มีสินค้าที่เพิ่มลดในวันนั้น แล้วคิดทีละขั้นไปเรื่อยๆตามแนวของตารางที่ช่วยคิด
ยังมีอีกหลายคำถาม ที่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดแบบที่เคยคิดในกระดาษหรือเครื่องคิดเลขมาเป็นวิธีคิดแบบ Excel ผมให้เจ้า Copilot ถามกลับมาบ้าง
---
## 📊 ด้านการขายและการตลาด
**คำถามที่ Excel ช่วยตอบได้:**
.
- **"ยอดขายที่เราตั้งเป้าไว้...สอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้อจริงของลูกค้าไหม?"**
- **"ถ้าเราลดราคา 10% จะเพิ่มยอดขายได้เท่าไหร่...และกำไรจะหายไปแค่ไหน?"**
- **"ลูกค้ากลุ่มไหนกันแน่ที่สร้างรายได้หลักให้เรา—แล้วเราดูแลเขาดีพอหรือยัง?"**
- **"แคมเปญที่แล้วคุ้มไหม? ยอดขายเพิ่มขึ้นจริง หรือแค่เสียงปรบมือในห้องประชุม?"**
- **"ถ้าเราขยายพื้นที่ขายไปอีก 3 จังหวัด...จะคุ้มทุนภายในกี่เดือน?"**
---
## 🏭 ด้านการผลิตและซัพพลายเชน
**คำถามที่ Excel ช่วยจำลองหรือวิเคราะห์ได้:**
.
- **"เราควรผลิตสินค้าแต่ละชนิดเท่าไหร่ เพื่อให้กำไรสูงสุด โดยไม่เกินกำลังการผลิต?"**
- **"ถ้าวัตถุดิบขาดช่วง...เราควรปรับสูตรหรือเปลี่ยนลำดับการผลิตอย่างไร?"**
- **"สินค้าคงคลังที่มีอยู่—มากเกินไปหรือน้อยเกินไป? แล้วมันกำลังกลายเป็นต้นทุนจมอยู่หรือเปล่า?"**
- **"ถ้าโรงงานหยุด 2 วัน...คำสั่งซื้อจะกระทบแค่ไหน และเราจะจัดการยังไง?"**
---
## 💰 ด้านการเงินและกำไรขาดทุน
**คำถามที่ Excel เหมาะกับการวิเคราะห์เชิงลึก:**
.
- **"ต้นทุนจริงของแต่ละสินค้า—รวมค่าขนส่ง ค่าเสียเวลา และค่าเสียโอกาส—คือเท่าไหร่กันแน่?"**
- **"ถ้าเราปรับโครงสร้างราคาใหม่...จะส่งผลต่อกำไรสุทธิยังไงในแต่ละไตรมาส?"**
- **"ลูกค้าคนไหนซื้อเยอะแต่จ่ายช้า...แล้วมันคุ้มไหมที่จะยังให้เครดิต?"**
- **"ถ้าเราลงทุนเพิ่มในระบบอัตโนมัติ...จะคืนทุนภายในกี่เดือน?"**
---
## 👥 ด้านลูกค้าและทีมงาน
**คำถามที่ช่วยวางแผนกลยุทธ์องค์กร:**
.
- **"ทีมขายแต่ละคนสร้างรายได้เท่าไหร่...แล้วเรากำลังให้รางวัลอย่างยุติธรรมหรือเปล่า?"**
- **"ลูกค้ารายไหนกำลังจะหลุดมือไป...เราควรทำอะไรตอนนี้ก่อนจะสายเกินไป?"**
- **"ถ้าเราปรับเวลาทำงานหรือเพิ่มทีม...จะช่วยลดคิวรอของลูกค้าได้แค่ไหน?"**
---
คำถามเหล่านี้ Power Query หรือ Power BI ช่วยได้แค่เอาข้อมูลในอดีตมาสรุปว่าที่ผ่านมามียอดเป็นเท่าไร ส่วนจะใช้ Excel ช่วยมองอนาคตได้อย่างไร สำคัญที่วิธีคิดนี่แหละครับ ต้องเปลี่ยนวิธีคิดแบบเดิมๆมาใช้วิธีคิดแบบ Excel ... ยังไงดี
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.