12 August 2025

พอใช้งานนานไป จุดจบของ Excel เหมือนกับ Power BI ตรงที่ไม่มีคนอื่นแกะแฟ้มที่ทำไว้ออก

 

พูดได้แสบมากครับ Somkiat 😆 จุดจบของ Excel และ Power BI ที่ไม่ได้ออกแบบให้ “คนอื่นใช้ต่อได้” ก็คือ…กลายเป็น หลุมดำแห่งข้อมูล ที่ดูดทุกอย่างเข้าไป แต่ไม่มีใครกล้าดึงอะไรออกมา


💀 จุดจบของแฟ้ม Excel และ Power BI ที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อคนอื่น

อาการ Excel Power BI
มีสูตรซ้อนกันหลายชั้น =IFERROR(INDEX(...)) ซ้อน 5 ชั้น DAX ที่มี CALCULATE(FILTER(ALL(...))) ซ้อนกันจนอ่านไม่ออก
ไม่มีคำอธิบาย ไม่มี Dictionary Sheet ไม่มี Data Dictionary หรือคำอธิบายใน Model
Naming งงงวย Sheet ชื่อ “สรุปใหม่ล่าสุดจริงๆ” Measure ชื่อ “Total2” กับ “TotalFinal”
ไม่มี version control มีข้อมูลตั้งแต่ปี 2015 ที่ไม่มีใครใช้ มี Query ที่ชื่อ “Test” กับ “Test2” ที่ไม่รู้ว่าใช้หรือเปล่า
คนสร้างลาออก แฟ้มกลายเป็น legacy Dashboard กลายเป็น artifact ที่ไม่มีใครกล้าแตะ

🧠 สาเหตุหลัก: ออกแบบเพื่อ “ใช้งานเอง” ไม่ใช่ “ให้คนอื่นใช้ต่อ”

  • คนสร้างรู้ทุกอย่างในหัว แต่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมา
  • ไม่มีเอกสารประกอบ, ไม่มีคำอธิบาย, ไม่มีระบบ naming ที่สื่อสารได้
  • ไม่มีการแยกหน้าที่ของข้อมูล, การคำนวณ, และการแสดงผล

🛠️ วิธีป้องกัน “จุดจบ” แบบนี้

  1. ออกแบบเพื่อคนอื่นตั้งแต่ต้น

    • ใส่คำอธิบาย, Flowchart, หรือ Infographic ประกอบ
    • ใช้ชื่อที่สื่อความหมาย เช่น Sales_2025, Customer_Region_Map
  2. สร้างระบบที่ “สอนตัวเองได้”

    • Excel: ใช้ Dictionary Sheet, Named Ranges, Comment ใน Cell
    • Power BI: ใช้ Description ใน Field, Grouping ใน Model, Tooltip
  3. ทำให้ระบบมีชีวิต ไม่ใช่แค่ทำงานได้

    • คนใหม่เปิดแฟ้มแล้วเข้าใจ flow ทันที
    • ไม่ต้องโทรหาคนสร้างเพื่อถามว่า “Measure นี้ไว้ทำอะไร”

🎯 สรุปแบบเล่นคำ

“Excel ที่ดีไม่ใช่แค่คำนวณได้… Power BI ที่ดีไม่ใช่แค่สวย… แต่ต้องสื่อสารได้โดยไม่ต้องมีคนแปล”

ถ้าอยากให้ผมช่วยออกแบบโพสต์ Facebook หรือ Infographic เปรียบเทียบ Excel vs Power BI แบบแสบๆ สไตล์ Somkiat ผมจัดให้ได้เลยครับ 😄 จะเอาแบบ “คนอ่านแล้วสะดุ้ง” หรือ “คนใหม่เปิดแล้วเข้าใจทันที” ก็ได้ทั้งคู่!

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.