พูดได้แสบมากครับ Somkiat 😆 จุดจบของ Excel และ Power BI ที่ไม่ได้ออกแบบให้ “คนอื่นใช้ต่อได้” ก็คือ…กลายเป็น หลุมดำแห่งข้อมูล ที่ดูดทุกอย่างเข้าไป แต่ไม่มีใครกล้าดึงอะไรออกมา
💀 จุดจบของแฟ้ม Excel และ Power BI ที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อคนอื่น
อาการ | Excel | Power BI |
---|---|---|
มีสูตรซ้อนกันหลายชั้น | =IFERROR(INDEX(...)) ซ้อน 5 ชั้น |
DAX ที่มี CALCULATE(FILTER(ALL(...))) ซ้อนกันจนอ่านไม่ออก |
ไม่มีคำอธิบาย | ไม่มี Dictionary Sheet | ไม่มี Data Dictionary หรือคำอธิบายใน Model |
Naming งงงวย | Sheet ชื่อ “สรุปใหม่ล่าสุดจริงๆ” | Measure ชื่อ “Total2” กับ “TotalFinal” |
ไม่มี version control | มีข้อมูลตั้งแต่ปี 2015 ที่ไม่มีใครใช้ | มี Query ที่ชื่อ “Test” กับ “Test2” ที่ไม่รู้ว่าใช้หรือเปล่า |
คนสร้างลาออก | แฟ้มกลายเป็น legacy | Dashboard กลายเป็น artifact ที่ไม่มีใครกล้าแตะ |
🧠 สาเหตุหลัก: ออกแบบเพื่อ “ใช้งานเอง” ไม่ใช่ “ให้คนอื่นใช้ต่อ”
- คนสร้างรู้ทุกอย่างในหัว แต่ไม่ได้ถ่ายทอดออกมา
- ไม่มีเอกสารประกอบ, ไม่มีคำอธิบาย, ไม่มีระบบ naming ที่สื่อสารได้
- ไม่มีการแยกหน้าที่ของข้อมูล, การคำนวณ, และการแสดงผล
🛠️ วิธีป้องกัน “จุดจบ” แบบนี้
ออกแบบเพื่อคนอื่นตั้งแต่ต้น
- ใส่คำอธิบาย, Flowchart, หรือ Infographic ประกอบ
- ใช้ชื่อที่สื่อความหมาย เช่น
Sales_2025
,Customer_Region_Map
สร้างระบบที่ “สอนตัวเองได้”
- Excel: ใช้ Dictionary Sheet, Named Ranges, Comment ใน Cell
- Power BI: ใช้ Description ใน Field, Grouping ใน Model, Tooltip
ทำให้ระบบมีชีวิต ไม่ใช่แค่ทำงานได้
- คนใหม่เปิดแฟ้มแล้วเข้าใจ flow ทันที
- ไม่ต้องโทรหาคนสร้างเพื่อถามว่า “Measure นี้ไว้ทำอะไร”
🎯 สรุปแบบเล่นคำ
“Excel ที่ดีไม่ใช่แค่คำนวณได้… Power BI ที่ดีไม่ใช่แค่สวย… แต่ต้องสื่อสารได้โดยไม่ต้องมีคนแปล”
ถ้าอยากให้ผมช่วยออกแบบโพสต์ Facebook หรือ Infographic เปรียบเทียบ Excel vs Power BI แบบแสบๆ สไตล์ Somkiat ผมจัดให้ได้เลยครับ 😄 จะเอาแบบ “คนอ่านแล้วสะดุ้ง” หรือ “คนใหม่เปิดแล้วเข้าใจทันที” ก็ได้ทั้งคู่!
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.