อย่าคิดว่าใช้ Power BI / Query
ยืดหยุ่นมากเหมือน Excel
ต่างกันที่ มองไม่เห็น vs มองเห็น
Excel
เป็นโปรแกรมที่พิสดารมาก เปลี่ยนวิถีการใช้คอมพิวเตอร์ให้ง่ายขึ้นมาก
จากเดิมที่ต้องเขียนรหัสด้วยภาษาโปรแกรมมิ่ง อย่าง BASIC, C+, Fortran,
COBAL, หรือถึงขั้นภาษา Machine Language
กลายร่างมาเป็นโปรแกรมที่เปิดขึ้นมาก็จะเห็นตารางที่เรียกว่า Spreadsheet
พอกรอกข้อมูลใส่สูตรลงไปก็จะเห็นคำตอบออกมาทันที
.
มองเห็นทั้งค่าที่กรอกว่าอยู่ตรงไหน
มีค่าเป็นเท่าไร สูตรเป็นยังไง อยากแก้อะไรก็จัดการแก้ใหม่ลงไปตรงนั้น
โปรแกรมที่มีชื่อว่า Excel จะทำออกมาได้ตามที่อยากได้
ซึ่งคุณสมบัตินี้เรียกว่า What you see in what you get (ย่อว่า WYSIWYG
อ่านว่า วิสซิวิก)
.
ส่วนโปรแกรมบัญชี
หรือโปรแกรมสำเร็จรูปที่ซื้อหามาใช้ในงานขายหรือผลิตล่ะ
หน้าจอที่กรอกค่าถูกกำหนดไว้เลยตั้งแต่ต้นว่าเป็นอย่างไร แก้ไขไม่ได้
ส่วนหน้าตารายงานที่ดูบนจอหรือสั่งพิมพ์ออกมาล่ะก็ตายตัวแกไม่ได้เหมือนกัน
เว้นแต่จะยอมจ่ายเงินซื้อส่วนขยายเพิ่มเป็น Report Writer
มาจัดการสร้างรายงานตามหน้าตาที่อยากเห็น
.
เมื่อเทียบกับ
Power BI หรือ Power Query ล่ะเข้าข่ายเป็นโปรแกรมแบบไหน แบบ Excel
ที่มองเห็นทั้งเนื้อในและหน้าตารายงานที่อยากได้
หรือแบบโปรแกรมบัญชีที่มองไม่เห็นข้อมูลข้างในจนกว่าจะสั่งให้แสดงหรือพิมพ์ออกมา
Power BI หรือ Power Query ไม่ได้ทำงานแบบ Excel แต่เข้าข่ายโปรแกรมสำเร็จรูปอย่างโปรแกรมบัญชี เพียงแต่ข้อมูลไม่ต้องกรอกเองแต่ดึงข้อมูลที่ทำไว้แล้วเข้ามาใช้ต่อ จากนั้นก็ต้องสั่งให้จัดโครงสร้างใหม่หรือกำหนดให้ใช้สูตรแล้วจึงสร้างกราฟออกมาให้เห็นเป็นหน้า Dashboards
.
การที่ไม่ได้กรอกเอง ได้เห็นตัวข้อมูลต้นทางทั้งหมดว่ามีหน้าตาเป็นยังไงแค่ตอนที่สร้างเท่านั้น หากมีการเพิ่มลดปรับเปลี่ยนข้อมูลที่ส่งมาหรือผู้บริหารอยากให้ปรับตรงไหน ต้องย้อนไปที่จุดเริ่มต้น อาจเรียกว่าถึงขั้นสร้างกันใหม่ก็เป็นไปได้ทีเดียว
.
ถ้าอยากจะใช้ Power BI หรือ Power Query นี่คือพื้นฐานของตัวโปรแกรมที่ต้องเข้าใจกันไว้ก่อน อย่าไปมองว่าก็เหมือน Excel นั่นแหละ
.
ถ้าอยากจะใช้ Power BI หรือ Power Query ให้เกิดประโยชน์เต็มที่ ต้องคิดวางแผนการใช้งานตั้งแต่ค้นหา Requirement ของผู้ดู Dashboard ว่าต้องการอะไรบ้าง จากนั้นต้องทดลองว่าสิ่งที่ทำไว้ตรงหรือยัง รับรองว่าต้องแก้แล้วแก้อีกกว่าจะได้ตรงใจ ซึ่งขั้นตอนนี้อย่าไปทำผ่าน Power BI หรือ Power Query ทีเดียวล่ะครับ ให้ใช้ Excel ช่วยลองผิดลองถูกก่อนจนได้สิ่งที่ต้องการตายตัวแล้วจึงค่อยนำไปใช้กับ Power BI หรือ Power Query
.
ดีไม่ดีจะพบว่าแค่ใช้ Excel นี่แหละพอแล้ว สร้าง Dashboard ได้เหมือนกันแถมยืดหยุ่นกว่าเสียอีก
.
การที่ไม่ได้กรอกเอง ได้เห็นตัวข้อมูลต้นทางทั้งหมดว่ามีหน้าตาเป็นยังไงแค่ตอนที่สร้างเท่านั้น หากมีการเพิ่มลดปรับเปลี่ยนข้อมูลที่ส่งมาหรือผู้บริหารอยากให้ปรับตรงไหน ต้องย้อนไปที่จุดเริ่มต้น อาจเรียกว่าถึงขั้นสร้างกันใหม่ก็เป็นไปได้ทีเดียว
.
ถ้าอยากจะใช้ Power BI หรือ Power Query นี่คือพื้นฐานของตัวโปรแกรมที่ต้องเข้าใจกันไว้ก่อน อย่าไปมองว่าก็เหมือน Excel นั่นแหละ
.
ถ้าอยากจะใช้ Power BI หรือ Power Query ให้เกิดประโยชน์เต็มที่ ต้องคิดวางแผนการใช้งานตั้งแต่ค้นหา Requirement ของผู้ดู Dashboard ว่าต้องการอะไรบ้าง จากนั้นต้องทดลองว่าสิ่งที่ทำไว้ตรงหรือยัง รับรองว่าต้องแก้แล้วแก้อีกกว่าจะได้ตรงใจ ซึ่งขั้นตอนนี้อย่าไปทำผ่าน Power BI หรือ Power Query ทีเดียวล่ะครับ ให้ใช้ Excel ช่วยลองผิดลองถูกก่อนจนได้สิ่งที่ต้องการตายตัวแล้วจึงค่อยนำไปใช้กับ Power BI หรือ Power Query
.
ดีไม่ดีจะพบว่าแค่ใช้ Excel นี่แหละพอแล้ว สร้าง Dashboard ได้เหมือนกันแถมยืดหยุ่นกว่าเสียอีก
Copilot :
นี่คือบทความที่ทรงพลังมากครับ Somkiat—ทั้งในเชิงเทคนิคและการสื่อสารแบบ “เปิดตา” ให้คนเข้าใจธรรมชาติของเครื่องมือแต่ละตัวอย่างลึกซึ้งและไม่หลงทางด้วยความเข้าใจผิดแบบผิวเผิน ผมขอช่วยจัดโครงสร้างให้เนื้อหานี้ดูชัดขึ้น พร้อมใส่หัวข้อย่อยและสไตล์ที่เหมาะกับการนำไปใช้ต่อ เช่นโพสต์ Facebook, สไลด์สอน, หรือแม้แต่เอกสารประกอบการอบรม:
🧠 Excel vs Power BI / Power Query
เข้าใจธรรมชาติของเครื่องมือก่อนใช้งานให้คุ้มค่า
🔍 Excel: โปรแกรมที่ “มองเห็น” ทุกอย่าง
- เปิดขึ้นมาก็เจอ ตารางเปล่า (Spreadsheet) พร้อมให้กรอกข้อมูล ใส่สูตร แล้วเห็นผลลัพธ์ทันที
- เห็นทั้ง ค่าที่กรอก, สูตรที่ใช้, และ ผลลัพธ์ที่ได้—แก้ไขตรงไหนก็ทำได้ทันที
- นี่คือความสามารถแบบ WYSIWYG (What You See Is What You Get)
→ เห็นอะไร แก้อะไร ได้ผลลัพธ์ตามนั้นทันที
Excel เปลี่ยนวิธีใช้คอมพิวเตอร์จากการเขียนโปรแกรม (BASIC, C+, Fortran, COBOL, Machine Language)
มาเป็นการ “คิดแล้วทำ” แบบเห็นภาพชัดเจน
🧱 โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป: มองไม่เห็นโครงสร้างข้างใน
- หน้าจอกรอกข้อมูลและรายงานถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า
→ แก้ไม่ได้ ยกเว้นซื้อส่วนเสริมอย่าง Report Writer - เหมาะกับงานที่ต้องการความ ตายตัวและควบคุมได้ แต่ไม่ยืดหยุ่น
📊 Power BI / Power Query: อยู่ตรงกลาง แต่ใกล้โปรแกรมสำเร็จรูปมากกว่า
- ไม่ได้กรอกข้อมูลเอง แต่ ดึงข้อมูลจากแหล่งอื่น แล้วจัดโครงสร้างใหม่
- ต้องสั่งให้ใช้สูตรหรือสร้างกราฟก่อนจึงจะเห็นผลลัพธ์
- ไม่ใช่ WYSIWYG แบบ Excel
→ เห็นข้อมูลต้นทางแค่ตอนแรก ถ้าเปลี่ยนอะไรต้องย้อนกลับไปแก้ที่ต้นทาง
🧪 วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- อย่าเริ่มจาก Power BI หรือ Power Query เลยทันที
→ ใช้ Excel ทดลองก่อนจนได้รูปแบบที่ “ตายตัว” แล้วค่อยนำไปสร้าง Dashboard - ต้องวางแผนตั้งแต่ต้น:
- ผู้ใช้ต้องการดูอะไร
- ข้อมูลมีหน้าตาเป็นยังไง
- ต้องปรับตรงไหนบ้าง
- มีความยืดหยุ่นแค่ไหน
บางครั้ง Excel ก็เพียงพอแล้ว—สร้าง Dashboard ได้เหมือนกัน แถมยืดหยุ่นกว่า
💡 สรุปแนวคิด
เครื่องมือ | มองเห็น | ยืดหยุ่น | เหมาะกับงานแบบไหน |
---|---|---|---|
Excel | ✅ เห็นทุกอย่าง | ✅ แก้ไขได้ทันที | งานทดลอง, สร้างสูตร, Dashboard แบบเร็ว |
Power BI / Query | ❌ ต้องสั่งก่อนถึงจะเห็น | ⚠️ ต้องวางแผนล่วงหน้า | งานรายงาน, สรุปข้อมูล, แชร์ให้ผู้บริหาร |
โปรแกรมบัญชี | ❌ โครงสร้างตายตัว | ❌ แก้ไม่ได้ | งานควบคุม, บันทึกบัญชี, ระบบขาย |
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.