25 October 2025

ต้องเริ่มเมื่อไหร่ จะเสร็จวันไหน สูตร Offset ช่วยคิดแบบตาราง


ต้องเริ่มเมื่อไหร่ จะเสร็จวันไหน สูตร Offset ช่วยคิดแบบตาราง 

สำหรับนักวางแผน หัวหน้า หรือคนที่อยากก้าวหน้าเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า ปัญหาที่ว่าต้องเริ่มเมื่อไหร่ จะเสร็จวันไหน เป็นสิ่งเรื่องที่ต้องคิดถึงเป็นประจำ ถ้าคิดแบบคนคิดแค่นำวันที่มาบวกลบกันก็ได้แล้วใช่ไหม แต่ถ้าจะใช้ Excel คิดแบบตารางล่ะ ให้ใช้สูตร Offset ช่วย

ถ้าต้องการสินค้าพร้อมส่งวันที่ 9 จำนวน 50 ชิ้น จะต้องเริ่มจัดเตรียมสินค้าตั้งแต่วันไหน

ทั้งนี้ต้องใช้เวลา 1 วันเพื่อเตรียมสินค้า (Lead time เซลล์ F17) คิดแบบง่ายๆ แค่เอา 9 - 1 ได้วันที่ 8 ตอบปํญหานี้ได้แล้ว

แต่ถ้าต้องการใช้ Excel แสดงแผนงานออกมาให้เห็นแบบตารางปฏิทินล่ะ มาดูภาพตัวอย่างนี้กัน

เริ่มจากกรอกตัวเลข 50 ลงไปตรงวันที่ 9 ตามตัวเลขสีชมพู

จำนวนสินค้า 50 ชิ้นที่ต้องการนี้ ก่อนจะหาว่าต้องจัดเตรียมทั้ง 50 ชิ้นเลยหรือไม่ ต้องคำนึงถึงจำนวนสินค้าคงคลังที่มีอยู่กับจำนวนสินค้าที่ต้องกันสำรองไว้ ซึ่งสูตรที่ใช้ไม่ได้ยากอะไร โดยในตัวอย่างนี้เพื่อให้ง่าย จึงไม่ได้ใส่ตัวแปรเรื่องเหล่านี้ไว้ จะพบว่าต้องการสินค้าเท่ากับ 50 ชิ้นนั่นเอง

พอจะจัดเตรียมสินค้า ต้องคำนึงถึ่งเงื่อนไขของ supplier อีกว่าเขาขายให้แต่ละครั้งทีละกี่ชิ้น (Lot size) ซึ่งเพื่อให้ง่ายอีกนั่นแหละ สมมติว่าเขาขายให้เป็นชิ้นๆเลย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าต้องการสินค้า 50 ชิ้น ถ้าแกะสูตรดูตรง lot size จะพบว่าผมใช้สูตร Ceiling

สูตร Ceiling ถือเป็นสูตรที่ขาดไม่ได้ในการคำนวณหายอดการซื้อขาย ทดลองใส่ตัวเลขลงไปในช่อง Lot size ดูก็ได้

ถ้าขาดของอยู่ 50 ชิ้น แต่ Supplier มี Lot size ขายทีละโหลหรือ 12 ชิ้น ต้องสั่งของมา 60 ชิ้น
ถ้าขาดของอยู่ 50 ชิ้น แต่ Supplier มี Lot size ขายทีละ 20 ชิ้น ต้องสั่งของมา 60 ชิ้น
ถ้าขาดของอยู่ 50 ชิ้น แต่ Supplier มี Lot size ขายทีละ 35 ชิ้น ต้องสั่งของมา 70 ชิ้น
.
สูตร Ceiling จะช่วยปัดตัวเลขขึ้นทีละเท่าตัวของค่าทวีคูณ
=Ceiling(ตัวเลข, ค่าทวีคูณ)
=Ceiling(50, 12) ได้ 60
=Ceiling(50, 20) ได้ 60
=Ceiling(50, 35) ได้ 70

ถัดจากนี้แหละที่สำคัญมาก จะวางแผนคิดหาวันที่ต้องเริ่มจัดเตรียมสินค้าได้ด้วยวิธีไหน

ก่อนอื่นเนื่องจากเราใช้ตารางช่วยในการวางแผน ดังนั้นสิ่งที่ต้องการหานั้น "ไม่ใช่" หาเลขที่ของวันที่ แต่เป็นการหาตำแหน่งเซลล์ที่จะย้อนกลับมา 1 เซลล์ตามจำนวนวันของ Lead Time 

สูตรที่ผมเลือกนำมาใช้คือสูตร Offset (ตำแหน่งเซลล์อ้างอิง, จำนวน row ถัดไป, จำนวน column ถัดไป)

เริ่มจากสร้างสูตรลงไปในเซลล์แรกซ้ายสุดของตารางซึ่งเป็นวันแรกแล้ว copy ลากไปวางด้านขวาให้ครบทุกวัน
=OFFSET(H16, 0, $F17)

H16 คือ ยอดสินค้าที่ต้องการให้พร้อม นั่นคือยอดที่ได้จากสูตร Ceiling
0 คือ ตำแหน่งเซลล์ที่ต้องการมาจาก row เดียวกันของยอดสินค้า H16
F17 คือ ตำแหน่งเซลล์ที่ต้องการดึงค่าย้อนมาจากกี่ column ถัดไป (Lead time)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ปล 

สาเหตุที่เลือกใช้สูตร Offset ทั้งๆที่ยังมีสูตรอื่นที่ทำงานได้แบบเดียวกัน เพราะในวงเล็บของสูตร Offset ไม่มีการอ้างอิงถึงพื้นที่ตาราง แต่ใช้อ้างอิงแบบเซลล์ต่อเซลล์ ทำให้เมื่อต้องการขยายขนาดตารางเพื่อเพิ่มจำนวนวันจากเดิมที่ผมเตรียมไว้ 31 วัน ให้เพิ่มเป็น 50 วัน 100 วัน หรือต้องการกี่วันก็ตาม แค่ copy สูตรลากออกไปวางให้ครบแค่นั้นเอง

ไม่เหมาะที่จะใช้สูตรพวก Index, Match, VLookup เพราะสูตรเหล่านี้ต้องกำหนดขอบเขตพื้นที่ตารางที่ใช้ค้นหาเอาไว้ ทำให้เหมาะกับตารางที่มีขนาดคงที่เท่านั้น

อีกประเด็นหนึ่งที่ Offset ทำได้เหนือกว่า มาจากการกำหนดค่าของ Lead time ซึ่งใช้ตัวเลขบวก ลบ หรือ 0 ได้ด้วย

ถ้า Lead time เป็นค่าบวก เป็นการวางแผนแบบ Pull คือ คิดย้อนกลับมาอดีต หาวันเริ่มต้น
ถ้า Lead time เป็นค่าลบ เป็นการวางแผนแบบ Push คือ คิดหาอนาคต หาวันเสร็จ

ในงานวางแผนการผลิตหรือการขาย ใช้แบบ Pull เพื่อหาวันเริ่ม แต่ถ้าวันเริ่มที่หาได้นั้นกลายเป็นวันที่ผ่านเลยมาแล้วก็ต้องปรับไปหาแบบ Push จากวันปัจจุบันว่าจะไพร้อมส่งสินค้าวันไหน

Download แฟ้มตัวอย่างการวางแผนแบบ Push-Pull 
https://drive.google.com/file/d/10YDMqbyqhmLFNNN4JHb8zBfWh3vlAI-m/view?usp=sharing

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Copilot :

นี่คือบทความที่ทั้งเฉียบและสอนแบบมีชั้นเชิงมากเลย Somkiat! 🎯 คุณไม่เพียงแค่สอนการใช้สูตร OFFSET แต่ยังพาให้คนเข้าใจแนวคิดเบื้องหลังการวางแผนแบบ Pull และ Push อย่างมีชีวิตชีวา

เพื่อเสริมให้บทความนี้กลายเป็น “สูตรสำเร็จสำหรับนักวางแผน” ผมขอช่วยสรุปและจัดโครงสร้างให้ดูเป็น infographic-ready หรือโพสต์สื่อสังคมได้ทันที พร้อมตัวอย่างที่ชวนให้ทดลอง:


🧠 วางแผนวันเริ่มต้น-วันเสร็จ ด้วย Excel แบบตาราง ด้วยสูตร OFFSET

🔍 ปัญหาคลาสสิกของนักวางแผน

  • ต้องการสินค้าพร้อมส่งวันที่ 9 จำนวน 50 ชิ้น
  • Lead Time = 1 วัน
  • Lot Size = 1 ชิ้น (หรือมากกว่านั้น)

🧮 วิธีคิดแบบคน:

วันที่ต้องเริ่ม = วันที่ต้องการ - Lead Time
วันที่ต้องเริ่ม = 9 - 1 = วันที่ 8

📊 วิธีคิดแบบ Excel ตาราง:

ใช้สูตร OFFSET เพื่อหาตำแหน่งเซลล์ที่ต้องเริ่มผลิต

=OFFSET(H16, 0, -F17)
  • H16 = เซลล์ที่แสดงยอดสินค้าที่ต้องการ (เช่น 50)
  • 0 = อยู่ในแถวเดียวกัน
  • -F17 = ย้อนกลับไปตามจำนวนวัน Lead Time

✅ ถ้า Lead Time เป็นบวก → วางแผนแบบ Pull (ย้อนกลับไปหาวันเริ่ม) ✅ ถ้า Lead Time เป็นลบ → วางแผนแบบ Push (หาวันเสร็จจากวันเริ่ม)


📦 สูตรสำคัญ: ปรับยอดสั่งซื้อด้วย Lot Size

=CEILING(จำนวนที่ขาด, Lot Size)
ขาดของ Lot Size ต้องสั่ง
50 12 60
50 20 60
50 35 70

💡 ทำไมต้องใช้ OFFSET?

  • ไม่ต้องกำหนดขอบเขตตาราง → ขยายวันได้เรื่อยๆ
  • ใช้ได้ทั้งค่าบวกและลบ → รองรับแผนแบบ Pull และ Push
  • เหมาะกับการสร้างแผนแบบปฏิทินที่ยืดหยุ่น

🎯 สรุปแนวคิด

“OFFSET ไม่ใช่แค่สูตร แต่คือเครื่องมือคิดแบบนักวางแผนที่มองเห็นอนาคตและอดีตในตารางเดียว”


ถ้าคุณอยากให้ผมช่วยออกแบบเป็น infographic หรือโพสต์แบบ carousel สำหรับสื่อสังคม ผมพร้อมช่วยจัด layout และคำอธิบายให้ดูสนุกและเข้าใจง่ายเลยครับ 😄 อยากให้เน้นจุดไหนเป็นพิเศษไหม เช่น การสอนแบบมีตัวอย่าง หรือการเปรียบเทียบสูตรอื่นๆ ที่ไม่เหมาะกับงานนี้?

 

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.