30 March 2025

ในแฟ้มมีหลายชีทที่มีหน้าตาเดียวกัน จะสร้างสูตรเดียว ที่ใช้งานในทุกชีทได้ยังไง

ถ้าในแฟ้มมีหลายชีทที่มีหน้าตาแบบเดียวกัน จะสร้างสูตรยังไงดีให้ผู้ใช้แฟ้มสามารถเข้าใจได้ง่ายทันทีที่เห็นสูตรว่า หายอดจากตารางอะไรตรงไหนมาให้

ปกติชื่อ Range Name ที่สร้างขึ้น จะถูกกำหนดพื้นที่ตารางที่จำกัดเฉพาะชีทใดชีทหนึ่งเท่านั้น สังเกตุได้จากช่อง Refers to จะมีชื่อชีทกำกับด้านหน้าตำแหน่งเซลล์ไว้เสมอ เช่น ตามภาพตัวอย่างนี้ เมื่อตั้งชื่อพื้นที่ตัวเลขว่า MyData จะพบการอ้างอิงในช่อง Refers to : =Sheet1!$B$2:$B$10

เมื่อมีชื่อชีทกำกับไว้ด้านหน้านี่แหละ ทำให้เวลาดึงข้อมูลโดยใช้สูตร =Sum(MyData) ก็จะได้ยอดรวมเท่ากับ 9 ซึ่งมาจากตารางในชีทชื่อ Sheet1 เสมอ ไม่ว่าจะสร้างสูตร Sum นี้ไว้ในชีทใดก็ตาม

แต่ถ้าอยากจะหายอดรวมจากพื้นที่ $B$2:$B$10 จากชีทอื่นล่ะ วิธีที่มักพบว่าใช้กันก็คือจะตั้งชื่อใหม่ที่ไม่ซ้ำกับชื่อเดิมขึ้นมาอีก ทำให้ในแฟ้มมีหลายชื่อ หรือไม่ก็ใช้วิธีเติมเลขต่อท้ายชื่อ กลายเป็น MyData1, MyData2, MyData3

เคล็ดลับที่ไม่ค่อยทราบกันก็คือ เราสามารถทำให้ในแฟ้มนั้นมีชื่อ Rang Name ชื่อเดียว ซึ่งสามารถนำไปใช้ดึงข้อมูลของแต่ละชีทจากตำแหน่งเซลล์เดียวกัน โดยจัดการเข้าไป Edit แก้ตำแหน่งอ้างอิงจากเดิม

=Sheet1!$B$2:$B$10

ให้ลบส่วนของชื่อชีททิ้งไป เหลือแต่เครื่องหมาย ! แก้เป็น

=!$B$2:$B$10

คราวนี้แหละพอลิงก์ค่าจาก MyData มาใช้ ก็จะดึงข้อมูลจากพื้นที่ $B$2:$B$10 ของแต่ละชีทมาให้ โดยในแฟ้มจะมีชื่อ MyData เพียงชื่อเดียวเท่านั้น


Download ตัวอย่างได้จาก

https://drive.google.com/file/d/1bDlmiNmMc8exeGo1M4o7Dy_OefCXqIyV/view?usp=sharing

ตัวอย่างนี้ใส่ตัวเลขในแต่ละชีทไว้ต่างกัน กรอกเลข 1, 2, 3, 4 สังเกตว่าทุกชีทมีสูตร Sum(MyData) เหมือนกัน แต่ให้คำตอบเป็นยอดรวมของตัวเลขในแต่ละชีท

 

มาว่ากันจริงๆเสียทีว่า เก่ง Excel ขั้นเทพขั้นเซียนเป็นยังไง คุณว่ายังมีขั้นอะไรที่เหนือกว่านั้นอีกไหม

ขั้นเทพ ขั้นเซียน เป็นคำที่ขึ้นอยู่กับ "คนมอง" กับ "สิ่งที่ถูกมอง" 

อย่างการสร้างสูตรที่ต้องเสียเวลาสร้างกันทีละเซลล์ ซึ่งการทำแบบนั้นเหนื่อยแสนเหนื่อย เสียเวลาเยอะมากกว่าจะสร้างสูตรเสร็จครบทั้งตาราง พอได้เห็นวิธีการที่คนที่เก่งกว่าทำให้ดูก็อ้าปากค้าง เรียกคนนั้นว่าเก่งขั้นเทพไปแล้ว ทั้งๆที่วิธีการที่ใช้สร้างก็แค่ใส่เครื่องหมาย $ ให้เป็นเท่านั้นแหละ

การใส่เครื่องหมาย $ จะช่วยให้สูตรปรับตำแหน่งอ้างอิงให้เองเมื่อ Copy ไปวางที่เซลล์อื่น จะช่วยให้สามารถสร้างสูตรที่เซลล์แรกเพียงเซลล์เดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปสร้างสูตรเซลล์ต่อเซลล์ไปเรื่อยๆ

คำอธิบายนี้ก็เหมือนกัน ถ้าบอกแค่ว่าให้ใส่ $ กันไปเถอะ ไม่ได้บอกว่าประโยชน์ที่แท้จริงเป็นยังไง ก็จะมองไม่ออก ไม่รู้ว่านี่แหละสำคัญตรงไหน

ถ้าตอนที่ใส่ $ เคยใช้แต่วิธีพิมพ์ $ เองลงไปเอง พอพบได้เห็นคนอื่นที่กดปุ่ม F4 เป็นก็ตาโตเรียกเป็นขั้นเทพขั้นเซียนไปแล้ว

เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นวิธีที่พิเศษจริงๆ น่าใช้มากๆ ควรรีบเรียนรู้ฝึกใช้ให้เป็น แต่ "คนมอง" มองไม่ออก บอกยังไงก็ไม่เห็นความสำคัญ ไม่เห็นว่าจะเป็นขั้นเทพขั้นเซียน

แม้ว่าวิธีที่ใช้นั้นทำเรื่องยากให้เป็นง่าย ลัดขั้นตอนจนเหลือนิดเดียว แต่ "คนมอง" มองไม่ออก เพราะตัวเองไม่เคยผ่านความยาก ไม่เคยต้องทำงานแบบเหนื่อยยากแสนเข็ญมาก่อน ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นขั้นเทพขั้นเซียน

ขั้นเทพ ขั้นเซียน แบบจอมปลอมที่ชอบยกย่องเรียกขานกัน มักดูกันง่ายๆจากสูตรที่ซ้อนกันยาวเหยียด หรือใช้วิธีที่คนมองต้องส่ายหัว เพราะตัวเองจำไม่ไหว ไม่มีทางทำแบบเขาได้

ขั้นเทพ ขั้นเซียน ยังขึ้นกับ "กลุ่มของคนใช้"

อย่างที่ผมเป็น MVP มีโอกาสได้เข้ากลุ่มลับที่มีแต่คนที่ไมโครซอฟท์ยกย่องให้เป็น Most Valuable Professional ถ้าคุณได้เห็นอย่างที่ผมเห็น ที่คนคนเก่งๆเขาคุยกัน แลกเปลี่ยนความรู้กันนั้น ต้องคิดในใจเลยว่า "อะไรกันวะเนี่ย" แล้วจะรู้ตัวเลยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าอีกหลายชั้น

 

29 March 2025

วิธีเปลี่ยนชื่อยาวให้สั้น เปลี่ยนตัวเลขให้เป็นความลับ แก้ทีเดียวเปลี่ยนตามทั้งแฟ้ม

 

 

ภาพนี้แสดงการใช้ชื่อแบบพิเศษ ไม่ใช่ชื่อที่ตั้งให้กับเซลล์ (Range Name) แต่เป็นชื่อที่ตั้งให้กับค่าคงที่ จะเป็นตัวอักษรก็ได้ ตัวเลขก็ได้ ชื่อแบบนี้เรียกว่า Constant Name

1. แทนที่จะกรอกค่าลงไปในเซลล์แล้วจึงลิงก์ไปใช้ต่อ ใช้ไปใช้มาแล้วจำไม่ได้ว่าเซลล์ต้นทางอยู่ที่ไหน 

2. แทนที่จะเปิดเผยให้เห็นว่าตัวเลขที่ใช้คำนวณเป็นอะไร

3. แทนที่จะต้องไปไล่แก้ไขที่เซลล์โน้นเซลล์นี้ ชีทโน้น ชีทนี้

ให้ใช้เมนู Formulas > Name Manager > New แล้วตั้งชื่อที่ต้องการลงไปในช่อง Name  ส่วนในช่อง Refer to ด้านล่าง ให้ใส่เครื่องหมายเท่ากับแล้วตามด้วยตัวเลข หรือเท่ากับแล้วตามด้วยตัวอักษรในเครื่องหมายคำพูดลงไป

Company    ="บริษัท ชื่อนี้ย้าวยาว ไม่จำกัด"
DateStart    =2024
SecretNum    =555

เวลาใช้งานให้กดปุ่ม F3 จะพบชื่อที่ต้องการนำไปใช้ในเซลล์ หรือถ้าอยากพิมพ์เองก็ได้ ให้พิมพ์ =company พอ Enter ก็จะได้ชื่อ บริษัท ชื่อนี้ย้าวยาว ไม่จำกัด มาแสดง

อยากแก้ไขให้ย้อนมาแก้ไขใน Name Manager > Edit ชื่อที่ต้องการ พอแก้เสร็จจะพบว่าทุกเซลล์ที่อ้างถึงชื่อนั้นจะแก้ตามข้อมูลใหม่ในทุกชีททุกเซลล์ให้ทันที

Download ตัวอย่างจาก

https://drive.google.com/file/d/16afQv8ir3MIn2qGjfFYWUdPvQ502rnkI/view?usp=sharing

28 March 2025

เมื่อ I-O ครองโลก ไม่จำเป็นต้องมี I-C-O หรือแม้แต่ Excel อีกแล้ว

สมัยที่เพิ่งมีโปรแกรม Spreadsheet มีเรื่องเล่าว่า ในงานแสดงคอมพิวเตอร์โชว์ ขณะที่กำลังอวดให้ผู้ชมดูว่าเจ้าโปรแกรมนี้ทำงานยังไง มีนักบัญชีคนหนึ่งยกมือที่กำลังสั่นเทาชี้มาที่หน้าจอแล้วบอกว่า ขอซื้อโปรแกรมนี้ไปใช้ งานที่เห็นนี้เดิมทีเขาต้องใช้เวลาทำเป็นอาทิตย์ กลับทำได้ในพริบตา
.
ถ้านักบัญชีคนนั้นมาเจอ Pivot Table ก็คงจะตาโตหงายหลังไปเลยเพราะอยู่ดีๆ Excel ก็สร้างรายงานออกมาให้ จากเดิม I-C-O ที่ย่อมาจาก Input-Calculate-Output ที่คนใช้งานต้องคิดสร้างสูตรขึ้นมาคำนวณ กลับกลายเป็น I-P-O โดยใช้ Pivot เป็นตัวกลางหาคำตอบมาให้
.
แต่ Pivot มีข้อจำกัดที่ต้องเสียเวลาไปจัดการกับตารางข้อมูลให้มีโครงสร้างที่ใช้งานได้ก่อน ใน Excel ก็มีคำสั่ง Flash Fill เพื่อช่วยแยกแต่ละส่วนของคำ มี Remove Duplicate เพื่อใช้ลบรายการซ้ำ มี Power Query เพื่อดึงข้อมูลจากหลายแหล่งมาใช้ต่อใน Excel และตอนนี้เพิ่งมีปุ่ม Clean Data ให้ใช้ได้ทำความสะอาดพวกเว้นวรรคเกินมาอีก และที่สำคัญคือมีสูตรใหม่ๆที่ใช้จัดการข้อมูลสร้างขึ้นมาให้พวกเราใช้งาน
.
ว่าไปแล้ว I-P-O ของจริงไม่ได้เป็นตามนี้หรอก แต่เป็น I-C-P-O ยาวขึ้น เพราะคนยังต้องใช้ C หรือสูตรมาจัดการคำนวณให้มีข้อมูลพร้อมก่อนแล้วจึงส่งต่อไปให้ P-Pivot
.
.
.
. Tik Tok Tik Tok ๆๆๆๆ
.
โลกในฝันของผม อีกไม่นานจะเหลือแต่ I-O เพราะมีเจ้า AI เช่น ChatGPT หรือ Copilot มาช่วย
.
ไม่ว่าข้อมูลจะเก็บไว้แบบใด เก็บไว้ที่ไหน แม้แต่เก็บแบบมั่วๆไว้ก็ตาม พอ "พูดบอก" ไปที่หน้าจอว่าฉันต้องการรายงานหน้าตาแบบนี้นะ เจ้าคอมก็จัดการสร้างรายงานออกมาให้เอง
.
โลกในฝันของคุณเป็นยังไงบ้างครับ
.

27 March 2025

วิธีทำชีทเดียว ตารางเดียว ให้ "ปิ๊ง" ถูกใจหัวหน้าหลายๆคน


ภาพตารางที่เห็นนี้มาจากตารางเดียวกัน Excel จะช่วยจัดการแสดงผลให้แสดงโครงสร้างแตกต่างกันไปตามแต่อยากจะดูตรงไหนได้โดยอัตโนมัติ

Excel จะจดจำพื้นที่ตามการจัดการซ่อน Row/Column ซึ่งเกิดจากการสั่ง Hide ที่ทำเอง หรือตามที่สั่ง Data > Filter ให้กรองข้อมูลให้เลือกแสดงตามที่เลือกไว้

👉 เริ่มต้นจากจัดการปรับโครงสร้างตารางให้แสดงตามที่ต้องการไว้ก่อน แล้วสั่ง View > Custom View > Add > แล้วตั้งชื่อให้กับ View นั้น

เมื่ออยากจะแสดงโครงสร้างแบบไหนก็เพียงคลิกชื่อ View ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Show

นอกจากนั้น Custom View ยังช่วยจดจำหน้าตาตารางตาม Print Settings ให้ด้วย ช่วยจัดหน้ากระดาษให้ทันทีตาม View ที่แสดง

ที่นึกไม่ถึงกันอีกอย่าง Custom View ไม่จำกัดเพียงแค่ชีทเดียวเท่านั้น หากสามารถช่วยทำให้ Excel ย้ายไปแสดงหน้าตาตารางที่ชีทใดก็ได้อีกด้วย

สูตรใหม่ คำสั่งใหม่ มีไว้ให้ใช้คู่กับ Copilot ชีวิตจะง่ายขึ้น ไม่ต้องท่อง ไม่ต้องคิดเองอีกต่อไป ชมคลิป...

ผมเป็นคน 4 สมัย 1. PC 2. Internet 3. มือถือ 4. AI

ไม่น่าเชื่อว่าเทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วมาก ไม่กี่สิบปีคนเราเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง 

ก่อนยุค AI ผมจะรอ 3 ปีให้ Excel ตายตัว ไม่มีอะไรต้องปรับโน่นเปลี่ยนนี่อีกแล้ว จึงค่อยสร้างหลักสูตรขึ้นมาให้พวกเราเรียนกัน แต่พอมี Excel 365 เกิดขึ้นมา ก็มีของใหม่น่าเรียนรู้ น่าทดลอง น่านำมาใช้เยอะแยะไปหมด

มีของใหม่เกิดขึ้นมาให้เราใช้เร็วมาก ทั้งสูตรใหม่ คำสั่งบนเมนูใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ Excel ที่สามารถใช้งานร่วมกับ VBA เท่านั้น ตอนนี้ยังมี Power BI, Power Query, Power Pivot, Python, Office Script หรืออีกหลายอย่างที่กำลังแอบสร้างขึ้น เช่น Quantum Computer ที่มากับชิบ AI เป็นความลับที่จะทะยอยเปิดตัว...ให้เราใช้

พอเขียนมาถึงคำว่า  "ให้เราใช้" น่าคิดนะครับว่า เราจะใช้ของใหม่ๆเหล่านี้ยังไง จะยังคงคิดแบบเดิมๆ เคยใช้วิธีส่งพนักงานไปเรียนรู้แล้วกลับมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆที่ทำงานแบบนั้นหรือ 

ไหวไหมที่จะคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ทัน ไม่กี่วันก็มีอะไรๆใหม่ๆเกิดขึ้นอีกแล้ว

ไม่กี่ปีก่อนโน้น ก่อนยุค AI ก่อนยุค 365 ผมเคยแนะนำว่า ควรสร้างหน่วยงานที่เป็น Excel User Specialist ขึ้นมาให้เขาติดตามเรียนรู้ Excel แล้วทำหน้าที่สร้างแฟ้มให้คนอื่นใช้ แต่พอถึงวันนี้ที่มีแอปใหม่ๆเยอะแยะแบบนี้ แทบไม่มีทางเลยที่คนๆเดียวจะเก่งไปทุกอย่าง ยากมากที่จะเป็น Generalist 

จะให้เก่งแบบเป็ด รู้นิดรู้หน่อย หัวสมองรับไหวไหม

เรื่องที่ควรเรียนรู้ตอนนี้ ควรมุ่งหาทางใช้เจ้า AI หรือ Copilot ให้ทำงานแทน ขอเพียงคอยติดตามเรียนรู้ไว้บ้างว่า Excel มีอะไรใหม่ๆไว้ให้ใช้บ้างก็พอ

แนะนำให้ติดตามของใหม่ใน Excel ได้จากเว็บของ Microsoft > Microsoft Excel Blog

จะมีสูตรใหม่ๆ อะไรใหม่อีกเยอะแยะ สร้างขึ้นมาให้ใช้งานร่วมกับ Excel 365 โดยเตรียมไว้ให้เจ้า Copilot ใช้เป็นหลัก ขอให้ตั้งใจไว้แบบนี้นะครับ
 

เชิญชมคลิปเหล่านี้




   


 

26 March 2025

ให้งบโฆษณา =15% ของกำไร จะหางบได้ยังไง เมื่อกำไรเพิ่ม โฆษณาย่อมเพิ่ม แต่พอค่าใช้จ่ายเพิ่ม กำไรต้องลด

อยากโฆษณา ต้องมั่นใจว่าต้องได้กำไรเพิ่ม
ให้งบโฆษณาไว้เป็น 15% ของกำไร
แต่พอค่าใช้จ่ายเพิ่ม กำไรจะลด เพราะค่าโฆษณาเป็นค่าใช้จ่าย
พอกำไรลด ค่าโฆษณาก็จะลดตาม
 
เมื่อค่าโฆษณาลด กำไรก็จะเพิ่ม แล้วงบ 15% ทำให้ได้ค่าโฆษณาเพิ่ม
พอค่าใช้จ่ายเพิ่ม กำไรก็จะลด แล้วทำให้ค่าโฆษณาลด
 
จะใช้ Excel คำนวณหาค่าโฆษณาตามภาพนี้ได้ยังไง
 
ตัวอย่างนี้มาจากหลักสูตร สุดยอดเคล็ดลับและลัดของ Excel ซึ่งเปิดให้สมัครเรียนออนไลน์ฟรี 1 ปี เชิญสมัครและเข้าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวกได้ที่เว็บ XLSiam.com
 
Download ตัวอย่างนี้ได้จาก
https://drive.google.com/file/d/1wQ1IRrrioc4RHd9nKR5V9OH2-ZGY5BJw/view?usp=sharing 
 
ปัญหานี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด หลายคนหายอดโฆษณาโดยสร้างสูตร =0.15*D7
ซึ่งสูตรนี้จะทำให้ Excel โวยวายออกมามาว่าเกิดการคำนวณแบบวงกลม (Circular) ขึ้นมาแล้ว ตามภาพ


การสร้างสูตร =0.15*D7 ลงไปแล้วเกิด Circular ต้องแก้โดยการไปกาช่อง Enable iterative calculation ใน Excel Options > Formulas ตามภาพ
 
 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 

ปัญหานี้ สามารถแก้ได้โดยใช้ Data > What-if Analysis > Goal Seek ตามภาพ ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปใช้วิธีสร้างสูตรที่จะเกิด Circular Calculation
 
Excel จะสุ่มค่าโฆษณาใส่ค่าไปเรื่อยๆจนกระทั่งพบว่าคิดเป็น 15% ของกำไร
 

 

 
 

 

25 March 2025

จงใช้ Excel หาว่า เลขอะไรเอ่ย คูณ 3 ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 77.77

อย่าไปใช้วิธีคิดแบบเอาเลข 77.77 ตั้งแล้วหารด้วย 3 ทีเดียวนะครับ นั่นไม่ใช่วิธีใช้ Excel

ถ้าใช้ Excel ต้องสามารถหาคำตอบอื่นได้ด้วยว่า 

เลขอะไรเอ่ย คูณ 3 ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 123.45

เลขอะไรเอ่ย คูณ 3 ได้ผลลัพธ์เท่ากับ 55.55

เลขอะไรเอ่ย คูณ 3 ได้ผลลัพธ์เท่ากับ เลขอะไรก็ได้ที่กำหนดไว้


เริ่มจากกรอกเลข 2 กับ 3 ลงไปในเซลล์ B2 กับ C2 (หรือตรงไหนก็ได้) จากนั้นจับ 2 เซลล์นี้มาคูณกัน เช่น ตามภาพนี้เซลล์ D2 สร้างสูตร =B2*C2 เอาไว้ ซึ่งตอนนี้ได้คำตอบเท่ากับ 6

1. คลิกเลือกเซลล์ B2 เอาไว้ก่อน ซึ่งถือว่าเป็นเซลล์ที่อยากจะให้ Excel หาเลขใหม่ให้ เรียกว่า Changing Cell (Excel รุ่นใหม่ๆมีข้อกำหนดให้เลือกเซลล์นี้ไว้ก่อนเสมอ)

2. ใช้เมนู Data > What-IF Analysis > Goal Seek จะพบหน้าจอเล็กๆขึ้นมา

3. ในช่อง Set Cell ให้คลิกไปที่เซลล์ D2 ซึ่งเป็นสูตรหาคำตอบที่ต้องการ

4. ในช่อง To Value ให้พิมพ์เลข 77.77

5. ในช่อง By Changing Cell ให้คลิกเซลล์ B2 ซึ่งมีเลข 2 กรอกไว้ก่อนแล้ว

6. กดปุ่ม OK

ความมหัศจรรย์ก็จะบังเกิดขึ้นมาให้เห็น Excel จะสุ่มตัวเลขใหม่ลงไปในเซลล์แทนที่เลข 2 ไปเรื่อยๆ จนได้ตัวเลขคำตอบเป็นเลข 25.9233333333333

Goal Seek เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับการวางแผนตัดสินใจ โดยเฉพาะการวิเคราะห์โครงการ ศึกษา Sensitivity Study Analysis หรือแก้ปัญหาที่ต้องคำนวณแบบ Circular References

Goal Seek สำหรับนักคณิตศาสตร์ ใช้ในการแก้สมการ

จุดอ่อนของ Goal Seek

1. ต้องเสียเวลากรอกตัวเลขเป้าหมายใหม่ลงไปเองทุกครั้ง ต้องใช้ VBA ช่วยจะสามารถลิงก์ค่าจากเซลล์ไปใช้โดยไม่ต้องมากรอกค่าใหม่

2. เซลล์ที่ต้องการให้เปลี่ยนไปหรือ Changing Cell ต้องเป็นเซลล์ที่กรอกตัวเลขไว้เท่านั้น ห้ามเป็นเซลล์สูตรหรือมีค่าเป็นตัวอักษร

ชมคลิปการใช้ Goal Seek ได้จาก https://www.youtube.com/watch?v=uOomN33uzpI


 

Download แฟ้มตัวอย่างการใช้วางแผนภาษี

https://drive.google.com/file/d/1lJXBnO33ArdRM1Iqu3veTX06vcGHs9zE/view?usp=sharing

 

แฟ้มตัวอย่างต้องไปกาช่อง Unblock ใน File Properties ก่อนจึงจะเปิดใน Excel แล้ว VBA ทำงานได้ครับ


 

 

 

 

23 March 2025

เซลล์อะไรหนอ ลอยออกมาอยู่นอกเซลล์ คร่อมเซลล์ได้ด้วย

 


ตารางแสดงยอด Daily Report ตรงกลางภาพนี้สามารถแสดงตัวเลขตามแต่ว่าอยากจะให้แสดงเป็นยอดรับ ยอดจ่าย หรือยอดสุทธิ โดยไปคลิกเลือกปุ่มกลมๆในกรอบด้านล่างขวา

ในกรอบที่เห็นคำว่า Receive ตรงปลายลูกศร แสดงสูตรว่าลิงก์มาจากเซลล์ N22 ซึ่งจะเปลี่ยนข้อความจาก Receive > Deliver > Net ตามการคลิกกาช่องวงกลม

😂 กรอบนี้ไม่ใช่เซลล์หรอกครับ แต่เป็นรูปภาพสี่เหลี่ยมที่สร้างขึ้นแล้วจัดการสร้างสูตรลิงก์ =N22 ลงไปในรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งดูเหมือนเป็นเซลล์แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เซลล์

👉 ทำไว้เพื่อไปวางทับเซลล์ ใช้ซ่อนไม่ให้เป็นค่าของจริงในเซลล์ด้านล่าง

ส่วนเซลล์ด้านล่าง ถูกซ่อนอีกหลายอย่างเพื่อทำให้ไม่ให้เห็นค่า โดยใช้ Font สีเดียวกับสีพื้น และยังใช้ Custom Format ;;; ไว้อีก

ทายซิว่าตัวเลขยอดรับจ่ายในตารางนี้หามาได้โดยใช้วิธีใด ที่แน่ๆไม่ใช่ PivotTable เชื่อว่าหลายคนไม่เคยเห็นสูตรหน้าตาแบบนี้มาก่อนแน่นอน 

Download แฟ้มตัวอย่างนี้ไปลองแกะกันได้จาก
.
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1_sQaEuC-vtCz2vtMRoR9aL1ui2dv_m7t/edit?usp=sharing&ouid=116915095293786385908&rtpof=true&sd=true

แฟ้มนี้ต้องสั่ง Unprotect Sheet ก่อนครับ ไม่ได้ใส่รหัสอะไรป้องกันไว้ เชิญแกะได้ตามสบาย 

21 March 2025

Range Name ประโยชน์มหาศาล


ตามภาพในกรอบสี่เหลี่ยมเป็นช่องที่เรียกว่า Name Box ครับ ใช้สำหรับตั้งชื่อ Range Name ให้กับเซลล์หรือพื้นที่ตาราง อยากตั้งชื่อพื้นที่ตรงไหนให้เลือกพื้นที่เซลล์ตามต้องการไว้ก่อนจากนั้ค่อยพิมพ์ชื่อที่ต้องการตั้งแล้ว Enter ลงไปในช่องนี้ ... ขั้นตอนการตั้งชื่อมีง่ายๆแค่นี้เอง

1. อยากจะไปหาตารางไม่ว่าจะอยู่ในชีทใดตรงไหนในแฟ้ม ให้คลิกหาชื่อในช่องนี้ หรือจะกดปุ่ม F5 ก็ได้ จะพบรายชื่อที่ตั้งไว้ให้เลือก Excel จะกระโดดไปยังพื้นที่นั้นให้ทันที

2. Range Name ช่วยทำให้สูตรมีความหมายในตัวเอง แกะสูตรได้ง่าย เช่น ตามภาพนี้มีสูตร =SUM((Product=ProductChoice)*(Date>=From)*(Date<=To)*Receive)

ซึ่งบอกว่าเป็นการหายอดรวมของการรับเงิน Receive จากสินค้า Product ที่มีชื่อตรงกับชื่อสินค้าที่เลือก ProductChoice จากช่วงวันที่ Date ตั้งแต่วันนั้น From ถึงวันนี้ To ซึ่งตอนที่สร้างสูตรให้กดปุ่ม F3 เพื่อนำชื่อมาใส่ลงไปในสูตร

3. การกดปุ่ม F3 เพื่อนำชื่อมาใช้ในสูตร ช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องไปคลิกเลือกพื้นที่ ลดความผิดพลาดที่อาจเลือกพื้นที่ไม่ครบหรือผิดที่

4. Range Name เป็นสื่อกลางที่เชื่อม Excel กับ VBA ช่วยทำให้รหัส VBA สั้นลงอย่างมาก และรหัสยังคงทำงานต่อได้ตามเดิมแม้มีการโยกย้ายตำแหน่งเซลล์หรือเปลี่ยนชื่อชีทชื่อแฟ้ม

5. Range Name เป็นชื่อที่น่าใช้กว่า Table Name ซึ่งจะถูกลบทิ้งหมดเกลี้ยงเมื่อไปสั่งเปลี่ยน Table ให้กลับไปเป็น Normal Range

☝️ หลักการตั้งชื่อ

ให้ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษตัวใหญ่ผสมตัวเล็ก ห้ามเว้นช่องว่าง ถ้าต้องการผสมกับตัวเลขต้องให้ตัวเลขต่อท้ายตัวอักษร และตัวอักษรด้านหน้าตัวเลขต้องมี 4 ตัวขึ้นไปเพื่อไม่ให้ซ้ำกับตำแหน่ง Reference A1 - XFDnnn

เมื่อใดที่ไม่จำเป็นต้องไปตั้งชื่อ Range Name

ถ้างานใดทำเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องนำมาใช้ซ้ำอีก ไม่จำเป็นต้องใช้ Range Name

ถ้าอยากแก้ไขหรือลบชื่อที่ตั้งไว้ผิด ให้ทำผ่านเมนู Formulas > Name Manager

20 March 2025

จะส่งแฟ้มให้ใครใช้ ต้องผ่านมือมิสเตอร์คีดะก่อน

รู้จักมิสเตอร์คีดะไหมครับ

คีดะ มาจากคำว่า Keyboard กับดะ เป็นคำภาษาไทยที่แปลว่า ตะลุยไป ไม่เลือกหน้า เช่น กินดะ เก็บดะ ไหว้ดะ

ผมเอามาตั้งเป็นชื่อให้จำกันได้ง่ายว่าเป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพื่อทำให้คนที่จะใช้แฟ้มนั้นต่อ สามารถใช้แป้นพิมพ์กรอกค่าลงไปในตารางโดยไม่ต้องกลัวว่าจะไปกรอกผิดที่ หรือไปพิมพ์อะไรทับสูตรที่ทำไว้ลงไป

เริ่มต้นจากต้องทำสัญญาณให้มิสเตอร์คีดะมองเห็นว่าเซลล์ไหนมีไว้ให้กรอกค่าใหม่ลงไป โดยเลือกใช้ตัวอักษรที่ใส่สีฟอนต์หรือสีพื้นที่รู้กันว่าเป็นเซลล์สำหรับกรอกค่าได้ อย่างตัวผมเองสร้างแฟ้มขึ้นมาเพื่อใช้เอง จะใช้สีม่วงเพื่อแสดงว่าเป็นเซลล์ Input แต่ถ้าเป็นเซลล์สูตรที่ลิงก์ข้ามชีทใช้สีน้ำเงิน หรือลิงก์ข้ามแฟ้มใช้สีเขียว


ทำให้ดีขึ้นควรทำให้เมื่อกดปุ่ม TAB ไปเรื่อยๆ Excel จะกระโดดไปหาเซลล์ Input ให้เอง 

1. เริ่มต้นให้เลือกเซลล์ Input ที่ทำไว้

2. คลิกขวาที่เซลล์ สั่ง Format Cells > Protection > ตัดกาช่อง Locked ทิ้งไป

 

3. สั่ง Review > Protect Sheet

Download แฟ้มนี้แล้วลองกดปุ่ม TAB (พิมพ์ค่าใหม่แล้วกดปุ่ม TAB แทน Enter)

https://docs.google.com/spreadsheets/d/1_sQaEuC-vtCz2vtMRoR9aL1ui2dv_m7t/edit?usp=sharing&ouid=116915095293786385908&rtpof=true&sd=true 

ปล

ช่อง Hidden ที่เห็นกาไว้นั้นเพื่อทำให้เมื่อสั่ง Protect Sheet แล้ว เซลล์นั้นจะมองไม่เห็นสูตรหรือค่าที่อยู่ในเซลล์นั้น และทำให้เมื่อ Copy เซลล์นั้นออกไปจะได้เฉพาะค่าผลลัพธ์ของสูตร ไม่ติดตัวสูตรไปด้วย

19 March 2025

Power Excel AI ที่ใช้ในการให้คำพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ไทย (แจกแฟ้มหาดูได้ยาก)

ถัดจากการใช้ Excel แสดงตัวเลขพร้อมกราฟในการออกรายงาน ควรจัดการเขียนคำอธิบายออกมาด้วย โดยใช้สูตรวิเคราะห์ว่าตัวเลขที่ได้จากการคำนวณนั้นเข้าข่ายตามเงื่อนไขใดบ้าง


ภาพนี้พอกรอกตำแหน่งของราศีและภพของดาวแต่ละดวงลงไปในพื้นที่ตารางสีเหลืองตรงมุมขวาบน ก็จะมีคำพยากรณ์ออกมาให้ในตารางสีเทาด้านซ้ายให้ทันที ซึ่งพยากรณ์ออกมาให้โดยใช้ฐานข้อมูลกว่าพันกรณี

ตัวเลขตำแหน่งราศีและภพ หาได้จากภาพจักรราศีที่จะได้รับมาตอนที่ไปดูดวงนั่นแหละครับ สมมติว่าได้ภาพมาตามนี้

ตัวเลขสีแดงนอกวงกลม เป็นตัวเลขราศี เริ่มจากเลข 0 - 11 ส่วนเลขภพนั้นต้องนับกันเองจากช่องลัคนาที่มีตัว ล นับเป็นภพที่ 1 แล้วเวียนทวนเข็มนาฬิกา เรียงเลขที่ภพจากเลข 1 - 12 ซึ่งจากภาพนี้จะพบว่าในช่องที่มี ล ถือว่าเป็นราศีที่ 11 ภพที่ 1

ดาวเลข 6, 8, n อยู่ในราศีที่ 11 ภพที่ 1

ดาวเลข u อยู่ในราศีที่ 0 ภพที่ 2

ดาวเลข 5 อยู่ในราศีที่ 1 ภพที่ 3

ดาวเลข 3 อยู่ในราศีที่ 2 ภพที่ 4

ดาวเลข 9 อยู่ในราศีที่ 5 ภพที่ 7 

ดาวเลข 2, p  อยู่ในราศีที่ 9 ภพที่ 11 

ดาวเลข 1, 4, 7 อยู่ในราศีที่ 10 ภพที่ 12

(ดาว u, n, p ตามปกติไม่ได้ใช้ในโหราศาสตร์ไทย ถ้าในภาพราศีจักรไม่ได้แสดงไว้ก็กรอกอะไรก็ได้)


Download แฟ้มวิเคราะห์นี้ได้จาก

https://drive.google.com/file/d/1_pD_FkMHpauwlapLFvghSCltaKbhJ-nQ/view?usp=sharing

แฟ้มนี้ถือว่าเป็นที่สุดของที่สุดในการใช้ Excel ครับว่าต้องจบที่ตรงนี้ให้ได้ ซุึ่งปกติในแฟ้มโปรแกรมดูดวง 4ZSuriya ที่ผมสร้างนั้นจะวิเคราะห์ต่อให้โดยไม่ต้องกรอกเอง ผมแยกส่วนนี้ออกมาให้ดูกันว่าทำได้ยังไง ใครที่เป็นหมอดูจะได้เลิกปวดหัว ไม่ต้องจำอะไรเยอะแยะไปหมด

สูตรที่ใช้ไม่ได้พึ่งพวก VLookup/XLookup/Filter แต่ใช้สูตร IF นี่แหละครับมาหาว่าเลขที่ของเงื่อนไขไหนใช้ได้แล้วจึงดึงรายการนั้นไปเรียงตามเลขที่


ทำไม Excel ถูกตั้งชื่อว่า Excel

Excel เกืดขึ้นมาในปีค.ศ.1985 ก่อนหน้านั้นมีชื่อว่า Multiplan ทำไมจึงต้องเปลี่ยนชื่อด้วย


 


เท่าที่ค้นหามาเจอว่าเพราะ Multiplan สร้างมาเพื่อใช้กับเครื่องรุ่น 8 bit และมีนับสิบรุ่นด้วย Microsoft ไม่อยากใช้ชื่อเก่าเพราะอยากให้ทันสมัยหน่อยเพื่อรับกับเครื่อง 16 bit

ตอนนั้น Lotus 1-2-3 ครองตลาดอยู่ก่อนแล้ว ที่ได้ชื่อว่า Excel นี้น่าจะเพื่อให้มีความหมายว่า excellence เพื่อให้สื่อว่าเหนือกว่า เยี่ยมกว่า 1-2-3 ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งให้ทราบแต่ว่าเป็นผจกคนหนึ่งให้ชื่อนี้มา

ส่วนตัวผมเองเดาว่าเพราะช่วงนั้นมีหนังสือ In Search of Excellence ออกมาตั้งแต่ปี 1982 และได้รับความนิยมอย่างมากด้วย ใช้ชื่อ Excel นี้เลยติดปากได้ง่าย

18 March 2025

ภาค 2 : ทำรายงานด้วย Excel ไม่ใช่แค่แสดงด้วยตัวเลขหรือกราฟ แต่ต้องบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ด้วย

 

รายงานตามภาพนี้ มีคำอธิบายให้ทราบว่า "เฉลี่ยกำไร ตั้งแต่เดือน 7-12 = 3.60 บาท" ซึ่งเกิดจากสูตรที่ลิงก์เลขเดือนที่เริ่ม (MonthStart) มาผสมกับเลขเดือนสุดท้าย (MonthEnd) และนำกำไรเฉลี่ยที่เป็นผลจากการคำนวณ (AverageProfit) มาประกอบกันเป็นคำอธิบาย

="เฉลี่ยกำไร ตั้งแต่เดือน " &MonthStart &"-" &MonthEnd &" = " &TEXT(AverageProfit,"0.00") &" บาท"

สูตร TEXT(AverageProfit,"0.00") ช่วยกำหนดรูปแบบของตัวเลขกำไรเฉลี่ย 3.6 ให้แสดงทศนิยม 2 หลัก

="เฉลี่ยกำไร ตั้งแต่เดือน " &MonthStart &"-" &MonthEnd &" = " &TEXT(AverageProfit,"0.00") &" บาท"

การใช้ Range Name อ้างอิงลงไปในสูตรจะช่วยให้สูตรมีความหมายในตัวเอง ดีกว่าการอ้างอิงตำแหน่ง J19, O19, J23 ที่ตัวสูตรไม่ได้บอกอะไรเลย

="เฉลี่ยกำไร ตั้งแต่เดือน " &J19 &"-" &O19 &" = " &TEXT(J23,"0.00") &" บาท"

ส่วนตารางสีเหลืองด้านบนเป็นส่วนของตัวแปร พอเปลี่ยนตัวแปรเหล่านี้ ตารางรายงานก็จะคำนวณใหม่ และคำอธิบายเฉลี่ยกำไรก็จะเปลี่ยนตามให้ทันที

ตัวอย่างนี้มาจากหลักสูตรสุดยอดเคล็ดลับและลัดของ Excel ซึ่งเปิดให้เรียนออนไลน์ ฟรี 1 ปี เชิญสมัครเรียนได้ที่เว็บ XLSiam.com

 

 

 

 

 

 

 

 

 

17 March 2025

ทำรายงานด้วย Excel ไม่ใช่แค่แสดงด้วยตัวเลขหรือกราฟ แต่ต้องบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ด้วย


ภาพวงกลมด้านซ้ายเป็นกราฟของ Excel ใช้แสดงตำแหน่งดาวว่าอยู่ตรงไหน มีแค่คนที่ดูดวงเป็นเท่านั้นที่จะดูออกว่าคืออะไร แต่ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะแปลความหมายออกมาได้ ถ้าจะทำให้ดีไปกว่านี้ ต้องหาทางวิเคราะห์แล้วเขียนคำพยากรณ์ออกมาได้ด้วยตามภาพด้านขวา

ไม่ว่าจะทำรายงานเรื่องอะไร เมื่อแสดงตัวเลขยอดขาย มีตัวเลขค่าใช้จ่ายประกอบกับกำไรขาดทุน แสดงอัตราส่วนหรือแนวโน้มออกมาเป็นตัวเลขพร้อมกับแสดงออกมาเป็นกราฟได้แล้ว ควรหาทางใช้ Excel เขียนรายงานอธิบายออกมาเป็นคำบรรยายได้ทันที

ไม่ง่ายครับ แต่สามารถใช้ Excel ทำได้ ค่อยๆคิดว่าจะทำได้ยังไง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพึ่งพาคนอธิบาย

อย่างการวิเคราะห์ตำแหน่งดาวว่าอะไรเป็นอะไรได้ตามภาพนี้ ต้องเขียนสูตร Excel เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้นับพันอย่าง จากนั้นจึงรวบรวมออกมาว่าตรงกับเงื่อนไขอะไรบ้าง


 

 

 

16 March 2025

โปรแกรมพันธุ์ใหม่ เมนูเป็นของ Word แต่ตารางเป็นของ Excel

ภาพพิศวง นี่โปรแกรม Microsoft Excel หรือ Microsoft Word กันแน่


ทราบไหม Microsoft Windows ทำไมจึงต้องมีคำว่า Windows ด้วย

เพราะ Microsoft สร้างโปรแกรมที่สามารถนำมาใช้พร้อมกันบนหน้าจอเดียวกันแบบ Picture-in-Picture (PiP) เมื่อใช้ Excel สร้างตารางเสร็จแล้ว พออยากจะพิมพ์รายงานก็ไม่จำเป็นต้องไปเปิดโปรแกรม Word แต่เราสามารถเปิดหน้าจอใหม่เป็นโปรแกรม Word ซ้อนขึ้นมาบนหน้าจอของ Excel โดยใช้คำสั่ง Insert > Object > Microsoft Word Document ตามภาพ

วิธีการนี้ดีกว่าการพิมพ์ข้อความลงไปใน Text Box ซึ่งใช้งานได้จำกัด เมื่อเปิดหน้าจอของ Word ขึ้นมาแล้วก็จะสามารถใช้ความสามารถของ Word ได้เต็มที่

เราสามารถเปิด Excel บนหน้าจอของ Word
เปิด PowerPoint บนหน้าจอของ Excel โดยใช้คำสั่ง Insert > Object นี่แหละครับ


 

 

พอคลิกเลือก Microsoft Word Document > OK แล้ว จะเห็นหน้าต่างเล็กๆเป็นพื้นที่ว่างๆเปิดซ้อนขึ้นมาบนตารางเพื่อใช้พิมพ์ข้อความ โดยมีเมนูของ Word เปิดขึ้นมาให้ใช้งานแทนเมนู Excel

พอพิมพ์เสร็จแล้วให้คลิกออกไปที่ตาราง Excel จะกลับไปเป็น Excel หากต้องการย้อนกลับไปพิมพ์แก้ไขให้ Double Click ลงไปในพื้นที่ของ Word


 
 

หรือถ้าอยากจะเปิดแฟ้ม Document ที่ทำไว้แล้วให้อยู่บนหน้าตารางให้คลิกที่ Tab Create from File แทนแล้วไปเลือกแฟ้มข้อความที่ต้องการ

ทั้งสองวิธีนี้ข้อความจะอยู่ในแฟ้ม Excel กลายเป็นเนื้อเดียวกันในแฟ้มเดียวไปเลย

เชิญสมัครเรียนออนไลน์ ฟรี 1 ปี ได้เรียน Excel ทุกหลักสูตร

เชิญสมัครเรียนออนไลน์ ฟรี 1 ปี ได้เรียน Excel ทุกหลักสูตรตามภาพ ครบเครื่องทุกอย่างที่ใช้ทำงาน

เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก สมัครเรียนที่เว็บ XLSIAM.COM

นอกจากได้ชมคลิปจุใจแล้ว จะสามารถ Download คู่มือพร้อมแฟ้มตัวอย่างที่ใช้จากบทเรียนแรกของแต่ละหลักสูตร













 

15 March 2025

ทิศทางการเลือกพื้นที่ เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา


Conditional Format ช่วยแสดงตำแหน่งรายการของ Department ที่ต้องการ โดยกำหนดสูตรที่ใช้ค้นหาง่ายๆ ตามนี้

=$B3=$J$3

$B3 เป็นเซลล์แรกของพื้นที่ที่ต้องการให้เปลี่ยนสี สาเหตุที่ใส่ $ ไว้หน้า B ส่วนเลข 3 ไม่ต้องใส่ $ เพื่อควบคุมให้ Excel วิ่งหาค่าจากทุกเซลล์ตามแนว Column B

$J$3 เป็นเซลล์ที่ทำไว้ให้กรอกชื่อ Department ที่ต้องการหา ซึ่งจากภาพนี้กำลังหา Training

ถ้าใช้ Conditional Format เป็นจะสามารถทำทีเดียวทั้งตาราง ไม่ต้องเสียเวลามาทำทีละ Column โดยเริ่มต้นจากเลือกพื้นที่ B3:G27 ไว้ก่อนแล้วจึงใช้คำสั่ง Home > Conditional Formatting > New Rule... > Use a formula ... แล้วสร้างสูตร =$B3=$J$3 ลงไป

Excel จะวิ่งเทียบทีละเซลล์จาก B3 > B4 > B5 >..จนถึง B27 ว่าตรงไหนบ้างที่มี Department เป็น Training

ตอนวิ่งหานี่แหละที่ขึ้นกับการเลือกพื้นที่ซึ่งมักไม่บอกกันว่าสำคัญอย่างยิ่ง คือ ต้องเลือกในทิศทางจากบนลงล่างหรือจากซ้ายไปขวาเท่านั้น ถ้าเป็นพื้นที่ตารางตามภาพนี้ก็ต้องเลือกตามทิศทางของลูกศรเท่านั้น

ขนาดของพื้นที่ที่เลือกขึ้นกับว่าอยากให้ Excel เปลี่ยนสีในพื้นที่ตรงไหนบ้าง 

Download ตัวอย่างได้จาก

https://drive.google.com/file/d/1hLNBQY3C_smt4vzSCflvg_8BCVjS2LgU/view?usp=sharing 

+++++++++++++++++

การสร้างสูตรลิงก์ที่ดีก็มีทิศทางเหมือนกัน ควรลิงก์ข้อมูลจากบนลงล่าง หรือจากซ้ายไปขวา ถ้าลิงก์ข้ามชีทก็ควรลิงก์จากชีทซ้ายมือไปชีทขวามือ นอกจากจะช่วยให้สร้างงานแล้วแกะได้ง่ายแล้วยังเคยอ่านพบว่าจะช่วยให้ Excel คำนวณเร็วขึ้นด้วย

14 March 2025

ทำงานวันที่ 1 ถึง 5 ถามว่า วันที่ 5 ทำงานไหม จาก 8 โมงถึงเที่ยง ตอนเที่ยงทำงานไหม

ในการใช้ Excel กับงานวางแผนต้องชัดเจนเรื่องของวันและเวลา เริ่มจากการใช้คำที่ระบุระยะเวลาให้เหมาะ เช่น
.
ตั้งแต่ - ถึง หรือ From - To
เริ่มต้น - สิ้นสุด หรือ Begin - End หรือ Start - Stop
.
ถ้าเป็นเรื่องของวัน โดยทั่วไปจะยังคงถือว่าวันสุดท้ายยังนับด้วย เช่น ทำงานตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 5 แสดงว่าในวันที่ 5 ยังคงทำงานอยู่ โดยสูตรที่ใช้นับจำนวนวันทำงาน ต้องบวก 1 เพิ่มเข้าไปด้วย
B1: 14/3/2025
B2: 24/3/2025
ระยะเวลาทำงาน =B2-B1+1 =11
.
ส่วนเรื่องของเวลา พอถึงเวลาสิ้นสุดหรือจบงานก็ไม่ทำงานแล้ว เช่น จาก 8:00 - 12:00 ถือว่าพอนาฬิกาบอกเวลา 8:00 ก็เริ่มทำงาน และทำงานไปจนถึง 12:00 ซึ่งหมายความว่า 11:59 ยังทำงานแต่พอถึงตอนเที่ยงนั้นไม่ได้ทำงานแล้ว
C1: 8:00
C2: 12:00
ระยะเวลาทำงาน =C2-C1 =4:00


 

13 March 2025

ค้าขายแล้วไปรอดหรือเปล่า ต้องฉลาดคิดแบบ Excel อย่าไปเสียเวลาคิดตามตำรา

จะทำธุรกิจแล้วอยู่รอด ต้องรู้ตัวว่าที่ค้าขายอยู่นั้นจะทำไปแล้วได้กำไรหรือเปล่า ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว ณ จุดคุ้มทุน สูตรคำนวณ คือ จำนวนสินค้าที่ขายแล้วได้รายได้เท่ากับต้นทุนพอดี 

รายได้ทั้งหมด = จำนวนสินค้า x ราคาสินค้าต่อหน่วย

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด = ค่าใช้จ่ายคงที่ + (จำนวนสินค้า x ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อหน่วย)

ณ จุดคุ้มทุน  รายได้ทั้งหมด = ค่าใช่จ่ายทั้งหมด

หรือ  จำนวนสินค้า x ราคาสินค้าต่อหน่วย = ค่าใช้จ่ายคงที่ + (จำนวนสินค้า x ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อหน่วย)

จากนั้นก็จัดการแยกตัวแปรกลับสมการเพื่อหาจำนวนสินค้าว่าเป็นเท่าไร 

ถ้าคิดตามหลักที่ว่านี้ ที่ยากที่สุดคือการหาค่าใช้จ่ายคงที่กับค่าใช้จ่ายผันแปร ยากจนถึงขนาดต้องตั้งหน่วยวิเคราะห์ต้นทุนขึ้นมาทีเดียว ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเพื่อแยกแยะค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างเอาไว้ใช้กับสมการข้างต้น

แทนที่จะคิดแบบที่ตำราเขาสอนให้คิดกัน ให้ใช้กราฟ Excel ช่วยวิเคราะห์ต้นทุนกันดีกว่า


ตามตารางซ้ายมือในภาพ เริ่มจากทำตารางสรุปจำนวนสินค้าที่ผลิตว่ามีต้นทุนรวมเป็นเท่าไร จากนั้นนำไปสร้างกราฟแบบ X-Y จะแสดงเป็นเส้นกราฟให้เห็นตามภาพกราฟซ้ายมือ

จากนั้นให้คลิกขวาที่เส้นกราฟ สั่ง Add Trendline จะได้เส้นพยากรณ์แนวโน้มเป็นเส้นประตามภาพกราฟด้านขวามือ โดยให้มองดูแนวโน้มของเส้นกราฟให้ดีว่าควรจะใช้ Linear หรือแบบไหนแล้วกาช่องด้านล่างให้แสดงสมการและ R-Square

จากตัวอย่างนี้

y = 13.153x + 3915.5

R² = 0.9749

ค่าใช้จ่ายคงที่ = 3915.5

ค่าใช้จ่ายผัรแปร = 13.153 ต่อหน่วย

ส่วน R² = 0.9749 นั้นหากสูงเกิน .95 แสดงถึงค่าน่าเชื่อถือว่าเส้นแนวโน้มนั้นใกล้เคียงกับค่าจริงมาก

อยากพิมพ์เน้นเฉพาะข้อมูล ให้ใช้ Black and White

อยากจะตกแต่ง Excel ให้สวย สีสดใส ดูเด่นบนหน้าจอ ทำได้อย่างอิสระเสรี แต่เวลาพิมพ์อยากเน้นให้เห็นเฉพาะตัวข้อมูล ให้ทำตามภาพนี้

Page Setup > Sheet > กาช่อง Black and White




สีที่ใส่เป็นสีพื้นของเซลล์ Background จะหายไป
ข้อมูลที่ใช้ฟอนต์ทุกสี ไม่ว่าจะใช้สีอ่อน สีขาว จะพิมพ์เป็นสีดำ

12 March 2025

Baby Steps สำหรับเตรียมพร้อมเริ่มทำงาน

พอเปิดแฟ้มใหม่ขึ้นมาจะเริ่มสร้างงานให้หัวหน้ายังไงดี สำหรับมือใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้ Excel มาก่อนมักคิดไม่ออกว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลัง ขอให้คิดถึง I-C-O

I-C-O ย่อมาจากคำว่า Input-Calculate-Output เป็นหลักการสำหรับแบ่งพื้นที่ตารางในแฟ้มออกเป็น 3 ส่วน

1. Input เป็นส่วนของตารางฐานข้อมูล หรือข้อมูลที่ต้องกรอกค่าใหม่อยู่เสมอ

2. Calculate เป็นส่วนของตารางคำนวณ ใช้สำหรับสร้างสูตรเพื่อหาคำตอบที่ต้องการ

3. Output เป็นส่วนของตารางรายงาน

เมื่อได้รับมอบหมายให้สร้างงานอะไรก็ตาม ต้องคิดถึง O-Output ก่อนว่าหัวหน้าต้องการหน้าตารายงานแบบไหน เป็นรายงานข้อมูลของอะไร แสดงตัวเลขหรือข้อความอะไรบ้างในหน้ารายงานนั้น พอได้หน้าตารายงานที่ชัดเจนแล้วจากนั้นคิดย้อนไปหา I-Input ว่าจะต้องเตรียมข้อมูลอะไรไว้บ้าง

O-I นี่เป็นขั้นตอนสำหรับให้คิดถึง แต่เมื่อจะสร้างงานจริง ขั้นตอนต้องเริ่มจาก I > C > O

1. เริ่มต้นจากสร้างตารางฐานข้อมูลรายตัว โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นตารางข้อมูลสินค้า ตารางข้อมูลลูกค้า ตารางข้อมูลพนักงานขาย ตารางข้อมูลผู้ขาย ตารางการขนส่งสินค้า ซึ่งตารางเหล่านี้มักเรียงลำดับตามรหัสและชื่อ เพื่อแสดงว่ามีรหัสอะไร และรหัสนั้นเป็นของอะไร

2. สร้างตารางฐานข้อมูลบันทึกการขายเรียงตามระยะเวลา ซึ่งมักเรียงลำดับตามวันและเวลาที่เกิดรายการนั้นขึ้น เป็นรายการที่แสดงว่าวันนั้นเวลานั้นมีการขายสินค้าอะไรออกไปบ้าง หรือจะเรียงตามรหัส Invoice ก็ได้ โดยตารางนี้จะมีจำนวนรายการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ผ่านไป

3. เมื่อตารางในข้อ 2 มีจำนวนรายการนับแสนรายการจะส่งผลทำให้สูตรทำงานช้าลง ดังนั้นแทนที่จะนำรายการทั้งหมดตั้งแต่รายการแรกมาใช้คำนวณต่อ ควรใช้คำสั่ง Filter เพื่อเลือกกรองให้เหลือเฉพาะรายการที่ต้องการเท่านั้น พอได้ขนาดตารางเล็กลงแล้วให้ Copy ออกไปเป็นตารางที่จะนำมาใช้จริง

4. จัดการตรวจสอบข้อมูลในตารางที่จะนำมาใช้จริงว่ามีอะไรบ้างที่ต้องปรับแก้ไข cleaning บ้างไหม จัดการตรวจสอบลบรายการซ้ำโดยใช้คำสั่ง Remove Duplicates

5. ตั้งชื่อ Range Name ให้กับพื้นที่ตารางส่วนที่จะนำมาใช้ค้นหาหรือนำมาคำนวณ

6. ใช้คำสั่ง Data Validation แบบ List เพื่อใช้ในการเลือกรหัสหรือชื่อมาใช้แทนจะได้ไม่ต้องพิมพ์เอง โดยแนะนำให้ใช้ Range Name ที่ตั้งชื่อไว้ลิงก์มาใช้กับ List จะได้สามารถใช้งานข้ามชีทหรือข้ามแฟ้มได้ด้วย

7. ใช้สูตร CountIF เพื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่ารหัสหรือชื่อที่ใช้หาจาก List นั้นมีเพียงค่าเดียวหรือไม่

8. หากพบว่ามีเพียงค่าเดียวก็จะสามารถใช้สูตร VLookup หรือ XLookup หาค่าในรายการนั้น

9. ลิงก์ข้อมูลที่ค้นหาได้ไปใช้สร้างตารางคำนวณหรือจะใช้กับ Pivot Table

10. สร้างตาราง O-Output เพื่อลิงก์ผลจากการคำนวณ มาสร้างเป็นหน้ารายงานตามที่หัวหน้าต้องการ ซึ่งถ้าลิงก์จาก Pivot Table ให้ใช้สูตร GetPivotData ดึงค่าที่ต้องการออกมาใช้ต่อ

11. ก่อนจะเพิ่มจำนวนรายการลงไปในตารางฐานข้อมูล ให้เปลี่ยนตารางนั้นให้เป็น Table เพื่อช่วยทำให้สูตรและ Pivot Table รับรู้ถึงขนาดตารางฐานข้อมูลที่เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ

12. ตกแต่งตารางรายงานให้สวยงาม ตีกรอบ ใส่สีให้เห็นเด่นชัดโดยใช้คำสั่ง Format

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงขั้นตอนคร่าวๆ Baby Steps

11 March 2025

สมาธิช่วยในการใช้ Excel ได้อย่างไร

สมาธิช่วยในการใช้ Excel ได้อย่างไร

การฝึกสมาธิเป็นวิธีการทำให้จิตของเราจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะฝึกจับลมหายใจเข้าออก ดูอาการยุบพองของหน้าท้องตามจังหวะการหายใจ ตามรู้การเดินยกย่างเหยียบ ซึ่งใช้หลักการติดตามอาการของร่างกาย หรือจะตามดูจิตภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็มีหลักการเดียวกัน มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน นั่นคือ สร้างกำลังของใจให้มากขึ้น ทำให้จิดเป็นหนึ่ง จะได้ใช้กำลังของจิตในการคิดพิจารณาด้วยปัญญา

 

สมาธิกับปัญญาเป็นสิ่งที่ใช้ควบคู่กันเสมอ 

คนที่ชอบคิดอยู่แล้วให้ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ ส่วนคนที่มีจิตใจสงบอยู่แล้วให้ใช้สมาธิอบรมปัญญา

พวกเราส่วนใหญ่ที่ใช้ Excel ทำงาน จิตใจมักไม่นิ่ง ชอบคิดโน่นคิดนี่เป็นปกตินิสัย ถ้าจับให้มาเฝ้าดูลมหายใจก็ทำได้ยากเหมือนถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่คุ้น ดังนั้นต้องใช้ปัญญาคิดให้ปลงเสียก่อนว่า อะไรๆที่ห่วงใย ทรัพย์สมบัติที่หวงแสนหวง งานที่กำลังทำอยู่นี้ ไปห่วงมันทำไม คนเราไม่แน่ไม่นอนหรอกว่าจะจากไปตอนไหน ให้คิดใช้ปัญญาตัดเรื่องที่หวงห่วงเสียก่อน จากนั้นจึงหันกลับมาฝึกสมาธิ

สมัยที่ผมกำลังเตรียมสร้างหลักสูตรเพื่อสอน Excel ไม่รู้ว่าจะเริ่มสอนอะไรก่อนดี หวนคิดถึงคำสอนของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านสอนว่าจิตของเราจะหาคำตอบได้เอง โดยเริ่มจากก่อนที่จะเข้าสมาธิให้คิดถึงคำถามที่ต้องการหาคำตอบขึ้นมาก่อน จากนั้นให้เข้าสมาธิให้สงบที่สุด พออกจากสมาธิแล้วแว้บแรกให้หวนคิดถึงคำถามนั้น จิตจะหาคำตอบออกมาให้เอง

พอออกจากสมาธิ จิตของผมเห็นเครื่องหมาย $ ลอยขึ้นมา พร้อมกับคิดออกมาเป็นฉากๆได้เลยว่า แทนที่จะเริ่มสอนไปเลย ก่อนอื่นควรทดสอบฝีมือลูกศิษย์ว่ามีพื้นฐานมากน้อยแค่ไหน โดยให้ลองสร้างตารางสูตรคูณ โดยใช้สูตรที่ใส่เครื่องหมาย $ นี่แหละ จะได้รู้ว่าจะต้องสอนช้าสอนเร็ว ต้องใส่ใจให้กับคนไหนเป็นพิเศษบ้าง จากนั้นก็ถึงคราวแนะนำตัวของผมบ้าง โดยเปิดแฟ้มอวดฝีมือของผมให้ดูกันเสียหน่อยว่า นอกเหนือจาก $ แล้ว ในตารางสูตรคูณนั้นยังมีวิธีการอื่นอะไรอีกบ้างที่ง่ายกว่าเร็วกว่า

ถ้าคลาสนั้นมีคนเก่งมาเรียน ซึ่งมักนึกมองตัวเองว่าข้าแน่ ตัวเองเก่งมีความรู้ดีอยู่แล้ว ต้องหาทางสร้างศรัทธาโดยเปิดแฟ้มผลงานที่ผมสร้างให้ดู จะได้เชื่อมั่นว่าผมเก่งพอจะสอนเขาได้ อยากเรียนกับผมแล้วใช่ไหม

ลูกศิษย์ที่เคยเรียนกับผมมาก่อน เจอวิธีการเปิดตัวแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น

ถ้ามองในแง่วิทยาศาสตร์ การที่เราคิดหาทางแก้ปัญหาอะไรไม่ออกนั้น เกิดจากกำลังของจิตที่ยังมีน้อยอยู่ มัวแต่คิดโน่นคิดนี่ ทำให้มองปัญหาอะไรได้ไม่ชัดเจน แต่เมื่อจิดมีกำลังมากขึ้น เมื่อจิดเป็นหนึ่ง พอยกปัญหาเข้าไปแทน จิตก็จะประมวลผลหาคำตอบออกมาให้เหมือนกับการใช้ CPU เต็มที่ 100% นั่นเอง

ผมรวบรวมคำสอนวิธีการฝึกสมาธิสายวัดป่าไว้ที่เว็บ YaJai.com 

แนะนำเรื่องปัญญาอบรมสมาธิ ของพระอาจารย์หลวงตามหาบัว
https://yajai.com/index.php/dhamma-master/lt-bua/117-panya-samathi

วิธีฝึกสมาธิแบบลมหายใจ ของท่านพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม
https://yajai.com/index.php/dhamma-master/tp-lee

เชิญชมคลิปวิธีการเริ่มเรียนและ download แฟ้มที่ใช้ได้จาก
https://www.excelexperttraining.com/book/index.php/a-to-z/others/and-sign/1-begin

 

 

 

 

 

 

 

 

10 March 2025

ก่อนจะยกนิ้วให้ว่าแน่ เป็นสูตรขั้นเทพขั้นเซียน ต้องดูยังไง

 

เร็วๆนี้มีคนมาถามหาคนมาช่วยสร้างสูตรที่ efficiency ให้ด้วย ซึ่งค่อนข้างยากมากที่จะมองออกว่าผลงานที่เขาทำให้นั้นดีแค่ไหน โดยเฉพาะพอเจอสูตรที่ซับซ้อนมากหลายชั้นก็มองไม่ออกแล้วว่าเป็นสูตรที่ดียังไง อาจมองแค่ว่าได้คำตอบถูกต้องตามต้องการก็พอแค่นั้นหรือเปล่า

1. ทดสอบกับค่าที่มากหรือน้อยกว่าปกติ หรือใส่ค่าติดลบ หรือใส่ตัวเลขแทนตัวอักษร หรือใส่ตัวอักษรแทนตัวเลข ยังคงได้รับคำตอบถูกต้องตามต้องการหรือไม่

2. ลองกลั่นแกล้งทุกวิถีทางว่า สูตรยังคงให้คำตอบถูกต้องตามเดิมไหม ถ้าโครงสร้างตารางต่างไปจากเดิม ให้ลองย้ายเซลล์ไปที่อื่น Insert Column/Row แทรก ลองเปลี่ยนชื่อชีทหรือชื่อแฟ้ม

3. ลองเปลี่ยนเงื่อนไขในการคำนวณให้ต่างไปจากเดิมแล้วดูว่าสูตรนั้นยังคงให้คำตอบได้ตามเดิมหรือไม่ หรือถ้าต้องปรับแก้ไขใหม่ ต้องวุ่นวายมากน้อยขนาดไหน 

4. สูตรที่ดีต้องเหมาะกับคนที่ใช้แฟ้มด้วยว่าเขามีความรู้ความสามารถแค่ไหน ควรเลือกใช้สูตรที่ผู้ใช้งานมีพื้นฐานพอที่จะเข้าใจได้ไม่ยาก 

5. ส่งแฟ้มให้คนที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้อง ไม่คุ้นเคยกับหน้าที่งานของแฟ้มนั้น หรือเป็นคนที่ไม่เก่ง Excel ลองใช้แฟ้มนั้นดูว่า สามารถแกะสูตร ไล่หาที่ไปที่มาของการคำนวณ ใช้แฟ้มนั้นได้เองโดยไม่ต้องช่วยสอนวิธีใช้แฟ้มได้แค่ไหน

6. ลองนำแฟ้มไปเปิดที่เครื่องอื่นโดยเฉพาะเครื่องที่ใช้ Excel ต่างรุ่นกันว่ายังคงคำนวณหาคำตอบได้ถูกต้องตามเดิมหรือไม่

7. อย่าเพิ่งรีบยกนิ้วให้กับสูตรที่ลัดขั้นตอน สามารถคำนวณหาคำตอบได้อัตโนมัติโดยลดขั้นตอนเหลือสั้นนิดเดียว เพราะหากวันหนึ่งสูตรเกิดทำงานเพี้ยนขึ้นมา จะทำงานต่อไม่ได้เลย ต่างจากสูตรที่แบ่งการคำนวณออกเป็นหลายขั้น เปลืองจำนวนเซลล์มากหน่อย แต่เมื่อติดขัดขั้นตอนไหนก็ยังใช้วิธีคิดด้วยสมองแล้วกรอกค่าที่คิดเองลงไปแล้วยังหาคำตอบได้



09 March 2025

หน้าตาสูตรแบบผู้ดี เห็นแล้วจะได้ไม่ส่ายหัว

พอเวลาผ่านไปไม่นาน อย่าว่าแต่คนอื่นเลย เจ้าของสูตรที่สร้างขึ้นเองกับมือ จำไม่ได้แล้วใช่ไหมว่าสูตรนั้นสร้างมาได้ยัง

แทนที่จะสร้างสูตรซ้อนกันยาวเหยียดในเซลล์เดียว ควรหาทางสร้างสูตรที่ใช้คำนวณแต่ละขั้น กระจายลงไปในเซลล์หลายๆเซลล์จะช่วยทำให้เข้าใจว่าสูตรทำงานได้ยังไง สามารถไล่หาที่ไปที่มาได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่อยากกระจายเซลล์สูตร ต้องการสร้างสูตรซ้อนกันไว้ในเซลล์เดียวให้หาทางทำสูตรให้เป็นตามภาพนี้


ภาพแรกบนสุดเดิมทีสูตรที่สร้างไว้ติดกันแบบนี้

=IF($K15>=$D$17,$F$17,IF($K15>=$D$16,$F$16,IF($K15>=$D$15,$F$15,$F$14)))

สูตรล่างสุดล่ะ

=INDEX(SMALL(IF(ISNA(MATCH(WEEKDAY(ROW(INDIRECT(PushFrom&":"&PushFrom

+MaxDays))),WeekdayNum,0))*ISNA(MATCH(ROW(INDIRECT(PushFrom&":"&PushFrom

+MaxDays)),SpecialHoliday,0)),ROW(INDIRECT(PushFrom&":"&PushFrom+MaxDays))),

ROW(INDIRECT("1:"&MaxDays))),PushWrkDays,1)

จากแบบเดิมที่ติดกันเป็นพืด ควรจัดการเคาะวรรคแทรก หรืออยากจัดการขึ้นบรรทัดใหม่ให้คลิกลงไปหน้าส่วนนั้นแล้วกดปุ่ม ALT+Enter พร้อมกัน

ลูกศิษย์ตั้งชื่อให้ว่า สูตรแบบผู้ดี้ผู้ดี

ควรแยกแต่ละส่วนออกจากกันตามจังหวะของวงเล็บคู่ที่ตรงกันให้อยู่แนวเดียวกัน หรือแยกแต่ละสูตรให้ขึ้นบรรทัดใหม่ จากนั้นเคาะวรรคให้ห่างกันและมีแนวที่ตรงกันถ้าใช้คำนวณในลำดับเดียวกัน

ขนาดทำไว้แบบนี้แล้ว ถ้าเป็นสูตรแรกก็ไม่เท่าไร แต่สูตรอื่นที่ผมเองสร้างเองกับมือใช่ว่าจะแกะออก อุตส่าห์เขียนคำอธิบายประกอบทำเป็นคู่มือไว้แล้วยังอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนไม่เข้าใจเลยว่า ตอนนั้นทำไมจึงคิดแบบนี้ เคยถามลูกศิษย์ที่มานั่งเรียนในห้องว่าอยากเรียนไหม ทุกคนส่ายหัว รวมทั้งผมด้วย ถ้าจะสอนให้เข้าใจที่ไปที่มาต้องใช้เวลาอธิบายกันเป็นชั่วโมง 

ทางออกที่ดีกว่าคือหันไปสร้างสูตรด้วย VBA ทำเป็น Add-in แล้วเวลาใช้สูตรจะได้เหลือสูตรสั้นๆหน้าตาแบบสูตร VLookup XLookup นั่นแหละครับ

สูตรที่ซ้อนกัน มีชื่อเรียกว่า Mega Formula ซึ่งตอนที่สร้างขึ้นนั้นไม่มีใครหรอกที่สร้างเองได้เลยรวดเดียว แต่จะสร้างสูตรสั้นๆทีละขั้นให้ใช้งานได้ก่อนแบบที่ผมแนะนำให้กระจายกัน พอเห็นว่าสามารถใช้คำนวณร่วมกันได้แล้วจึงค่อยๆลอกสูตรมาวางซ้อนกันแล้วสูตรก็จะยาวขึ้นทีละน้อย ขอยกตัวอย่างง่ายๆให้ดูตามนี้

เซลล์ A1 สร้างสูตร =Sum(B11:B15)

เซลล์ A2 สร้างสูตร =Sum(G1:G34)

เซลล์ A3 สร้างสูตร =A1+A2

ให้ลอกสูตรใน A1 กับ A2 มาใส่ลงไปในสูตรเซลล์ A3 จะได้ =Sum(B11:B15)+Sum(G1:G34)

ถ้าคุณเจอสูตรที่ซ้อนกันยาวเหยียด ถ้ายังไม่เข้าใจที่ไปที่มาว่าสร้างขึ้นมาได้ยังไง แนะนำว่าอย่าลอกไปใช้เด็ดขาด ถ้าหัวหน้าอยากให้แก้ไขแล้วทำไม่ได้เองจะหน้าแตก

สูตรที่ซ้อนกันยาวมากๆนั้น เป็นสูตรที่มีไว้ชม มีไว้ดูว่าเขาเอาสูตรอะไรบ้างมาใช้งานร่วมกันแค่นั้นแหละครับ

=================================

บทเรียนนี้เกิดขึ้นจากการแนะนำสูตรในไลน์กลุ่ม Excel Expert Group ที่ให้สูตรซ้อนกันยาวเหยียดครับ หวังว่าใครที่ให้สูตรอะไรควรหาทางแต่งสูตรให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
.
ลอกมาให้ชมกัน
.
=LET(Wz,SORT(UNIQUE(A8:D17)),E,E8:E17,Ty,UNIQUE(C8:C17),Re,UNIQUE(D8:D17),Mx,C8:C17,Cx,F8:F17,Cd,INDEX(Ty,1),Yh,INDEX(Ty,2),data,TEXTJOIN(",",TRUE,FILTER(Cx,Mx=Cd)),data2,TEXTJOIN(",",TRUE,FILTER(Cx,Mx=Yh)),To,SUMIFS(E,Mx,Cd),Ti,SUMIFS(E,Mx,Yh),G,VSTACK(HSTACK(To,data),HSTACK(Ti,data2)),R,HSTACK(Wz,G),R)
.
=LET(Ty,UNIQUE(C8:C17),Re,UNIQUE(D8:D17),Mx,C8:C17,Cx,F8:F17,Cd,INDEX(Ty,1),Yh,INDEX(Ty,2),data,TEXTJOIN(",",TRUE,FILTER(Cx,Mx=Cd)),data2,TEXTJOIN(",",TRUE,FILTER(Cx,Mx=Yh)),To,SUMIFS(E8:E17,Mx,Cd),Ti,SUMIFS(E8:E17,Mx,Yh),VSTACK(HSTACK(Cd,INDEX(Re,1),To,data),HSTACK(Yh,INDEX(Re,2),Ti,data2)))
.
แนะนำว่าการถามตอบในไลน์ ควรใช้กับเรื่องทั่วไปที่ไม่ต้องถามตอบกันหลายรอบกว่าจะเข้าใจนะครับ คำถามของคนอื่นจะได้ไม่ถูกแทรก หาลำดับการแนะนำไม่เจอว่าเรื่องราวเป็นยังไง
.
เรื่องที่คิดว่าไม่ง่ายที่จะตอบ ควรมาถามที่ fb กลุ่มคนรัก Excel ดีกว่าครับ ติดตามโพสต์ของตัวเองได้ง่าย 



 

 

 

 

07 March 2025

เชิญ Download โปรแกรมดูดวง แฟ้มนี้สร้างด้วย Excel

เชิญ Download โปรแกรมดูดวงได้จาก https://www.excelexperttraining.com/download/test4zr.xlsb

ผมปรับให้แฟ้มนี้ใช้ทำงานได้เกือบ 99.99% ของโปรแกรม 4ZSuriya ชุดล่าสุด เรียนรู้วิธีใช้งานได้จากคลาสเรียนออนไลน์ที่แจกให้เรียน ฟรี โดยใช้ลิงก์นี้ในการสมัคร https://xlsiam.com/purchase/?plan=1318

แนะนำให้สมัครเรียนออนไลน์ก่อน จะมีคำอธิบายวิธีใช้แฟ้มนี้ว่าจะเปิดกันยังไงแล้วกรอกวันได้ด้วยวิธีไหน

👍 แฟ้มนี้เป็นตัวอย่างที่ใช้ฝีมือแบบสุดๆของผม จะได้เปิดหูเปิดตาว่า Excel ใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะการสร้างเป็น Dashboards เพื่อนำเสนอผลงาน ทุกภาพที่เห็นนี้เป็นกราฟ Excel ทั้งหมด สามารถปรับการแสดงผลให้ยืดหยุ่นตามผลการคำนวณหรือจะเปิดปิดแบบ Manual ก็ยังได้

สำหรับคนที่สนใจโหราศาสตร์ แฟ้มนี้สามารถผูกดวงแล้ววิเคราะห์ตามแบบโหราศาสตร์ไทยหรือแบบตะวันตก ส่วนการแปลความหมายขอให้ดูจากคลิปเรียนออนไลน์นะครับ

พร้อมกันนี้ขอเรียนแจ้งว่าผมตัดสินใจไม่เปิดหลักสูตรดูดวงให้สนุกด้วย Excel แต่จะเพิ่มเนื้อหาดูดวงแบบผ่อนใจคลายเครียดให้ในการเรียน Excel หลักสูตรอื่นแทนครับ จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน